เอสซีจี ชูสินค้านวัตกรรม กรีนชอยส์ เม็ดพลาสติก-กระเบื้อง ยอดขายโตในอาเซียน ตอบเมกะเทรนด์รักษ์โลก

จันทร์ ๑๙ มิถุนายน ๒๐๒๓ ๑๖:๑๑
เอสซีจีเผยยอดขายสินค้านวัตกรรมรักษ์โลกในกลุ่มตลาดอาเซียนโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนวัตกรรมพลาสติก-กระเบื้องตกแต่งผิว ผลจากการพัฒนาสินค้าตอบรับเมกะเทรนด์โลก "ใส่ใจสิ่งแวดล้อม - สุขอนามัย"

นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Service Solution Business เอสซีจี กล่าวว่า "จากเมกะเทรนด์ที่ผู้บริโภคทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน ขยะ มลภาวะทางอากาศ ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น โดยในไตรมาส 1 ของปี 2566 สินค้านวัตกรรมกรีน ภายใต้ฉลาก Green Choice จำนวน 252 รายการ มียอดขาย 68,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากไตรมาสก่อน คิดเป็นร้อยละ 53.6 จากยอดขายสินค้ารวม นับว่าผู้บริโภคอาเซียนซึ่งเป็นตลาดหลักของเอสซีจี ให้การตอบรับสินค้านวัตกรรมรักษ์โลกเป็นอย่างดี"

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ 3 อันดับที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดอาเซียน ได้แก่ 1.นวัตกรรมเม็ดพลาสติกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม LDPE สำหรับงานเคลือบลามิเนตความเร็วสูง ช่วยลดระยะเวลาและพลังงานในการผลิต ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.SCGC GREEN POLYMER เม็ดพลาสติก HDPE สำหรับขึ้นรูปฟิล์ม ซึ่งสามารถผสมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลได้มากขึ้น แต่ยังคงความแข็งแรงของฟิล์มเท่าเดิม และ 3. นวัตกรรมวัสดุตกแต่งผิวปลอดภัย กระเบื้องเซรามิคปูพื้น บุผนัง และกระเบื้องพอร์ซเลน (ภายใต้แบรนด์ PRIME จัดจำหน่ายในประเทศเวียดนาม) เป็นสินค้าที่เป็นมิตรต่อสุขภาพอนามัย มีส่วนประกอบสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ต่ำกว่า 0.5 mg/m3 จึงปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย

Head of Service Solution Business เอสซีจี ยังกล่าวว่า ทุกกลุ่มธุรกิจของเอสซีจีพร้อมเร่งเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมกรีนต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น ภายใต้เป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า Green Choice จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 67 ภายในปี 2573 ตามแนวทาง ESG 4 Plus โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 (Net Zero ปี 2050) เพื่ออนาคตของโลกและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ส่งมอบโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นต่อไป

สำหรับฉลาก Green Choice เป็นฉลากที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี ที่ให้การรับรองสินค้าของเอสซีจี ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลักของเอสซีจี ได้แก่ 1.ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ที่สามารถเลือกสร้างบ้าน อาคาร และงานโครงสร้างด้วยนวัตกรรมรักษ์โลก เช่น ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตได้ถึง 80,000 ตันเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 8 ล้านต้น 2.ธุรกิจเคมิคอลส์ (SCGC) มีนวัตกรรมและโซลูชันรักษ์โลกที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ครอบคลุมการผลิตเคมีภัณฑ์ ขั้นต้นไปจนถึงขั้นปลาย เช่น เม็ดพลาสติกประเภทพอลิเอทิลีน พอลิโพรพิลีน และพอลิไวนิลคลอไรด์ และ 3. ธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP)
มีนวัตกรรมรักษ์โลกที่หลากหลาย เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยเฟสท์ช้อยส์ที่ผลิตจากกระดาษสัมผัสอาหารเคลือบด้วยพลาสติก PE ที่ใส่อาหารร้อนได้ รวมทั้งกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้เยื่อจากป่าปลูก และ Eco Fiber

โดยผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์ บริการ โซลูชันที่ได้รับรองฉลากนี้ ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์ที่กำหนดอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ใช้พลังงานหมุนเวียน ลดการใช้พลังงาน ประหยัดทรัพยากรตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน มีอายุการใช้งานยาวนาน รวมถึงส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี

ที่มา: เอสซีจี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ