แคมเปญนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมกำลังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั่วโลกให้มาร่วมกันบ่มเพาะผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศแห่งอนาคต โดยมุ่งเน้นเป็นพิเศษไปที่ความสอดประสานกันระหว่างประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ขององค์การสหประชาชาติ โดยโครงการฝึกอบรมผู้นำ "ไคลเมท เอ็กซ์" ประจำปี 2566 ("Climate x" Leadership Training Program 2023) ซึ่งเป็นโครงการเรือธงโครงการแรกของแคมเปญนี้ ได้รับกระแสตอบรับอย่างกระตือรือร้นจากเยาวชนทั่วโลก และภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ก็มีนักศึกษากว่า 1,000 คน จาก 70 ประเทศและภูมิภาค สมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งทางโครงการยังคงเปิดรับสมัครผ่านทางเว็บไซต์ http://climatexleadership.gauc.net/ ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้
คุณชาห์บาซ ข่าน (Shahbaz Khan) ผู้อำนวยการสำนักงานยูเนสโกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก และผู้แทนยูเนสโกประจำประเทศจีน เกาหลีเหนือ ญี่ปุ่น มองโกเลีย และเกาหลีใต้ กล่าวในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมผู้นำ "ไคลเมท เอ็กซ์" ว่า "การดำเนินการและการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ในการส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน ร่วมกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม ดังนั้น องค์กรระหว่างประเทศ พันธมิตรสถาบันการศึกษา ผู้กำหนดนโยบาย และภาคเอกชน ควรร่วมกันจัดเวทีระดับโลกเพื่อให้เยาวชนได้เปล่งประกายความสามารถ แสดงความคิดเห็น และลงมือทำให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทั่วโลก"
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่ของมนุษย์ จึงมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมและเศรษฐกิจทั้งหมด ดังนั้น การปรับเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นกลางทางคาร์บอนจึงเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ที่จะก่อให้เกิดการพัฒนารูปแบบใหม่ขึ้นมา
แนวคิดหลักของแคมเปญ "ไคลเมท เอ็กซ์" ระบุชัดเจนว่ามุ่งเน้นเป็นพิเศษไปที่ความสอดประสานกันระหว่างประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และใช้โครงสร้างสามมิติเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ได้มากที่สุด โดยในระดับชาตินั้น โครงการฝึกอบรมมีเป้าหมายเพื่อบ่มเพาะผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศแห่งอนาคต ส่วนในระดับภูมิภาคจะมีการประชุมระดับภูมิภาคว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Regional Forum on Climate Change) เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการในวงกว้างมากขึ้น และในระดับนานาชาติจะมีการจัดงานสัปดาห์สภาพภูมิอากาศเยาวชนโลก (Global Youth Climate Week) ซึ่งเป็นกลไกใหม่ล่าสุดที่พันธมิตรมหาวิทยาลัยโลกว่าด้วยสภาพภูมิอากาศและกลุ่มพันธมิตรอื่น ๆ จากทั่วโลกริเริ่มร่วมกัน เพื่อขยายการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของเยาวชนไปทั่วโลก
ด้วยความแข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกพันธมิตรมหาวิทยาลัยโลกว่าด้วยสภาพภูมิอากาศ และการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากพันธมิตรทั่วโลก แคมเปญ "ไคลเมท เอ็กซ์" ครั้งแรกจึงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยสามารถบ่มเพาะนักศึกษาหนุ่มสาว 100 คนจากมหาวิทยาลัยสมาชิกเพื่อให้เป็นผู้นำในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ รวมถึงระดมกำลังมหาวิทยาลัยกว่า 40 แห่งทั่วแอฟริกาก่อนเปิดฉากการประชุม COP27 ที่อียิปต์ และดึงดูดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากกว่า 100 รายจาก 6 ทวีปให้มาสนับสนุนการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของเยาวชน ทั้งนี้ ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 27 ประจำปี 2565 (2022 UN Climate Change Conference หรือ COP27) นักศึกษาที่ผ่านการฝึกอบรมและได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทน ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศโลกที่เมืองชาร์มเอลชีคของอียิปต์ และยื่นจดหมายเป็นการส่วนตัวถึงประมุขแห่งรัฐ 5 ชาติ รัฐมนตรี 14 คนจาก 11 ประเทศ และผู้แทนรัฐบาลอีกนับสิบคน
สำหรับแคมเปญในปี 2566 นี้จะต่อยอดจากความสำเร็จในปีที่แล้ว โดยยังคงยึดมั่นในภารกิจและโครงสร้างเดิม เพิ่มเติมด้วยการมีส่วนร่วมกับคนทุกกลุ่มมากขึ้นและสร้างผลกระทบให้มากขึ้น
ผนึกกำลังมหาวิทยาลัย 28 แห่งเพื่อการประชุม COP28
เนื่องจากการประชุม COP28 กำลังจะเปิดฉากขึ้นที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในช่วงปลายปีนี้ ทางพันธมิตรมหาวิทยาลัยโลกว่าด้วยสภาพภูมิอากาศจึงได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรมหาวิทยาลัยเอเชีย ที่ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยสมาชิก 15 แห่งทั่วเอเชีย
เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยโตเกียวและมหาวิทยาลัยชิงหัวเป็นสมาชิกของพันธมิตรทั้งสองกลุ่มข้างต้น ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นการรวบรวมทรัพยากรด้านการศึกษาและวิชาการของมหาวิทยาลัย 28 แห่งทั่วโลก โดยมุ่งเน้นมหาวิทยาลัยในเอเชียเป็นพิเศษ ภายใต้แคมเปญนี้ มหาวิทยาลัยสมาชิกของพันธมิตรทั้งสองกลุ่มจะร่วมกันจัดหลักสูตรออนไลน์แบบสหวิทยาการสำหรับการฝึกอบรมผู้นำ "ไคลเมท เอ็กซ์" และจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างการรับรู้ในระดับโลกถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเอเชีย และระดมเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาทั่วทวีปให้ดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศอย่างเด็ดขาดจริงจังทั้งก่อนและหลังการประชุม COP28
นอกจากการขยายความร่วมมือในภาคการอุดมศึกษาแล้ว แคมเปญนี้ยังได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นจากพันธมิตรระดับโลกในหลากหลายภาคส่วน รวมถึงยูเนสโก, สถาบันเพื่อการอบรมและวิจัยแห่งสหประชาชาติ (UNITAR) และสภาเยาวชนอาหรับว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Arab Youth Council on Climate Change)
ฝึกผู้ฝึกสอน
เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้กับเยาวชนจำนวนมากขึ้น เพื่อให้เยาวชนได้รับโอกาสจากการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ และรับบทเป็นผู้นำโครงการด้านสภาพภูมิอากาศในอนาคต โครงการฝึกอบรมผู้นำ "ไคลเมท เอ็กซ์" ประจำปี 2566 จึงเปิดรับนักศึกษาจากทั่วโลก
ดร.หวัง ปินปิน (WANG Binbin) เลขาธิการบริหารของพันธมิตรมหาวิทยาลัยโลกว่าด้วยสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า "เยาวชนคือกระดูกสันหลังของอนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ดังนั้น โครงการฝึกอบรมผู้นำ "ไคลเมท เอ็กซ์" จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เยาวชนสามารถแบกรับความรับผิดชอบครั้งประวัติศาสตร์นี้ได้ โครงการนี้จะให้ทั้งความรู้เชิงวิชาการ ขยายมุมมองในระดับโลก และให้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการจัดการสภาพภูมิอากาศโลกแก่เยาวชน ยิ่งไปกว่านั้น เราหวังว่าโครงการนี้จะทำหน้าที่เป็นแสงสว่างนำทางและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางไปสู่ความสำเร็จตามที่แต่ละคนต้องการ"
เพื่อเปลี่ยนนักศึกษาจากผู้เรียนรู้เรื่องสภาพภูมิอากาศไปสู่ผู้นำการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ โครงการฝึกอบรมนี้ได้ใช้แนวทาง "ฝึกผู้ฝึกสอน" (Train the Trainer) ผ่านโมดูล "1+3" ("1+3" Module) โดย 1 หมายถึงหลักสูตรออนไลน์ระยะเวลาหนึ่งเดือนในเดือนกรกฎาคม และ 3 หมายถึงอีเวนต์ 3 งานที่นักศึกษาจะต้องจัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน
โดยงานที่สามคืองานสัปดาห์สภาพภูมิอากาศเยาวชนโลก ประจำปี 2566 ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของแคมเปญ "ไคลเมท เอ็กซ์" และมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเปิดเวทีให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนได้นำเสนอผลการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของนักศึกษาบนเวทีระดับนานาชาติ
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2107622/The__Climate_x__Campaign_2023.jpg