นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมสายงานวาณิชธนกิจ ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DAOL) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท อาร์ เอส เอส 2016 จำกัด (มหาชน) (RSSC) เปิดเผยว่าได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 22.47 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ (ในกรณีที่เสนอขายหุ้นทั้งจำนวน และไม่รวมกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน)
ทั้งนี้ RSSC มีหุ้นที่ทำ Greenshoe เพื่อจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) จำนวนไม่เกิน 40,000,000 หุ้น โดยการจัดสรรจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯ และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจ (Sector) พลังงานและสาธารณูปโภค (ENERG)
RSSC ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมไฟฟ้า ได้แก่ งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้า งานก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้า และงานก่อสร้างพลังงานทดแทนแบบครบวงจรแก่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยสามารถแบ่งธุรกิจของบริษัทได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจให้บริการก่อสร้างสถานีไฟฟ้า 2) ธุรกิจให้บริการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้า และ 3) ธุรกิจให้บริการก่อสร้างพลังงานทดแทน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง
นายไพโรจน์ ศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ เอส เอส 2016 จำกัด (มหาชน) (RSSC) เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับผลประกอบการในปี 2563 - 2565 และงวด 3 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 1,392.44 ล้านบาท 1,771.82 ล้านบาท 1,915.39 ล้านบาท และ 432.76 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิจำนวน 56.69 ล้านบาท 63.42 ล้านบาท 75.88 ล้านบาท และ 8.51 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 4.07 ร้อยละ 3.58 ร้อยละ 3.96 และร้อยละ 1.97 ตามลำดับ
ในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 1,905.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 208.82 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.31 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มฟื้นตัว อีกทั้งภาครัฐมีงบประมาณลงทุนเพิ่มในงานก่อสร้างระบบสายส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเน้นการรับงานจากทางภาครัฐเป็นหลัก เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศไทย โดยมีรายได้จากการก่อสร้างส่วนใหญ่มาจากการก่อสร้างสถานีไฟฟ้า การก่อสร้างระบบสายส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นจำนวน 914.63 ล้านบาท และจำนวน 766.31 ล้านบาท และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเป็นจำนวน 224.75 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47.75 ร้อยละ 40.01 และร้อยละ 11.73 ของรายได้รวม ตามลำดับ
สำหรับงวด 3 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 432.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 12.86 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.07 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการขยายตัวของการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการก่อสร้างส่วนใหญ่มาจากการก่อสร้างสถานีไฟฟ้า การก่อสร้างระบบสายส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้าและการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ และหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสะสมอื่นๆ ตามที่บริษัทฯ กำหนด
ที่มา: อาร์ เอส เอส 2016