มร. แอนดี้ ไท่ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายท็อปส์ คลับ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ดรีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า "ท็อปส์ คลับ ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์เดียวของท็อปส์ ที่มุ่งสู่ความเป็นองค์กรค้าปลีกที่สร้างสรรค์คุณค่าร่วมกันระหว่างชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตเคียงข้างกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมา ปัญหาสัตว์เลี้ยงจรจัดเป็นปัญหาที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนานและทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเนื่องจากผู้คนประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจในช่วงโรคระบาดโควิดที่ผ่านมา ท็อปส์ คลับ เล็งเห็นปัญหานี้ และอาศัยจุดแข็งความเป็นศูนย์รวมสินค้านำเข้าคุณภาพสูงที่มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ร่วมมอบอาหารสุนัข-แมว ให้กับมูลนิธิเดอะวอยซ์ และมูลนิธิเดอะแมนแดทเรสคิวส์ดอกส์ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การส่งมอบความช่วยเหลือในครั้งนี้ จะช่วยบรรเทาปัญหาสัตว์เลี้ยงจรจัดที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยให้เบาบางลง และยังเป็นแรงใจให้กับทั้งสองมูลนิธิในการทำงานเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคมต่อไป"
คุณเก๋ ชลลดา สิริสันต์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเดอะวอยซ์ กล่าวว่า "เป็นระยะเวลากว่า 12 ปี แล้ว ที่ทางมูลนิธิเดอะวอยซ์ดำเนินงานโดยมีเป้าหมายหลักมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต และผลักดันสวัสดิภาพสัตว์ยากไร้ในประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยการสนับสนุนอาหารสัตว์จากท็อปส์ คลับในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้แมวกว่า 1,000 ตัว จากศูนย์พักพิงต่างๆ ในเครือข่ายมูลนิธิฯ ได้มีอาหารทานแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างความตระหนักรู้ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจรีเทลชั้นนำที่หันมาให้ความสำคัญกับการบรรเทาปัญหาสัตว์เลี้ยงจรจัดในสังคมไทย และหวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมในวงกว้างให้ทุกภาคส่วนหันมาใส่ใจกับปัญหาสัตว์จรจัดมากขึ้น"
มร. ไมเคิล เจมส์ เบนส์ ประธานมูลนิธิเดอะแมนแดทเรสคิวส์ดอกส์ กล่าวว่า "ปัจจุบัน มูลนิธิเดอะแมนแดทเรสคิวส์ดอกส์ มีสุนัขจรจัดที่ทั้งเจ็บป่วยและพิการอยู่ที่ศูนย์พักพิงภายใต้ความดูแลของมูลนิธิฯ มากกว่า 1,150 ตัว โดยในแต่และเดือนต้องใช้ค่าจ่ายในการดูแลทั้งสิ้นกว่า 1.7 ล้านบาท การสนับสนุนของ
ท็อปส์ คลับในครั้งนี้ถือเป็นกำลังใจสำคัญของมูลนิธิฯ ในการเดินหน้าทำงานเพื่อบรรเทาปัญหาสุนัขจรจัดในประเทศไทยต่อไป"
"ท็อปส์ คลับ ในเครือท็อปส์ ภายใต้เซ็นทรัลรีเทล ตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มรีเทลของไทย มุ่งสานต่อเจตนารมณ์การเป็นองค์กรค้าปลีกที่ช่วยพัฒนาและสร้างสรรค์คุณค่าให้กับประเทศไทย โดยพร้อมจะขยายความร่วมมือในครั้งนี้ไปสู่การผนึกกำลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าด้วยการเปลี่ยนอาหารส่วนเกินจากการดำเนินธุรกิจ ให้เป็นมื้ออาหารอิ่มท้องให้กับสุนัขยากไร้ต่อไปในอนาคต อันเป็นการสร้างคุณค่าร่วมกันเพื่อนำไปสู่สังคมที่เติบโตเคียงข้างกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายแอนดี้ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์