เทนเซ็นต์ เปิดตัวโครงการ "คาร์บอนเอ็กซ์" ขับเคลื่อนนวัตกรรมคาร์บอนต่ำแห่งอนาคต มุ่งลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

จันทร์ ๒๖ มิถุนายน ๒๐๒๓ ๑๕:๒๘
จากรายงานฉบับล่าสุดของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ได้ตอกย้ำว่า เป้าหมายการควบคุมอุณหภูมิโลกในปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า โดย IPCC ระบุว่า โอกาสที่จะจำกัดอุณหภูมิโลกให้เพิ่มไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสนั้นมีความเป็นไปได้เพียง 50% เท่านั้น ในขณะที่จะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายใน 10 ปี ซึ่งในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปล่อย CO2 ต่ำมาประยุกต์ใช้อย่างหลากหลาย โดยหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญก็คือ การดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจสีเขียวได้มากยิ่งขึ้น

ดังนั้น เทนเซ็นต์ จึงเปิดตัวโครงการแฟล็กชิพ "คาร์บอนเอ็กซ์" (CarbonX Program) เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำแห่งอนาคต รวมถึงส่งเสริมการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้งานในสเกลระดับใหญ่ภายในปี 2030 โดยในระยะแรกของโครงการฯ จะให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี CCUS

นายเดวิส ลิน รองประธานอาวุโส เทนเซ็นต์ กล่าวว่า "นวัตกรรมเทคโนโลยีจะเป็นตัวแปรสำคัญในการเร่งขับเคลื่อนความเป็นกลางทางคาร์บอน เราจึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำล้ำสมัยเหล่านี้ไปใช้ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและผลักดันการนำไปประยุกต์ใช้กับงานขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวให้มากยิ่งขึ้น"

โซลูชันการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS)

CCUS ไม่ใช่เรื่องใหม่ อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ เพื่อดักจับ CO2 ที่ถูกปล่อยออกมาจากกระบวนการทางอุตสาหกรรมทั้งในระยะก่อนหน้า หรือหลังจากเข้าสู่ชั้นบรรยากาศแล้ว และนำมาอัดฉีดลงไปกักเก็บในโพรงทางธรณีวิทยา (Geological Formation) ที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน เพื่อป้องกันไม่ให้สามารถกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้ หรือนำมาแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าในเชิงพาณิชย์ เช่น เคมีภัณฑ์ เชื้อเพลิง ปูนซีเมนต์ และพลาสติก

นายหยงผิง ไจ๋ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านกลยุทธ์ความเป็นกลางทางคาร์บอนของเทนเซ็นต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เทคโนโลยี CCUS จะมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคต แต่จะต้องได้รับการสนับสนุนตั้งแต่แรกเริ่ม เช่นเดียวกับที่เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเคยได้รับ"

อย่างไรก็ตาม แม้การพัฒนา CCUS จะมีความซับซ้อนและใช้ต้นทุนสูง แต่ก็ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายขีดความสามารถในการประยุกต์ใช้และเพิ่มศักยภาพทางการตลาด โดยภาคเอกชนและภาครัฐทั่วโลกกำลังทุ่มทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อพัฒนาและเตรียมนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ เทนเซ็นต์มุ่งมั่นที่จะร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ โดยเราจะใช้ความชำนาญเพื่อเร่งสร้างสรรค์โซลูชันล้ำสมัยเพื่อที่จะแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในพันธสัญญาที่จะสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทานภายในปี 2573 โดยเราเล็งเห็นว่า CCUS จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนให้เป็นผลสำเร็จ และปัจจุบันเรากำลังทำงานร่วมกับ Carbfix ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไอซ์แลนด์ที่สามารถแปลง CO2 ให้กลายเป็นหินได้ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน โดยเรารู้สึกตื่นเต้นกับการเปิดตัวโครงการคาร์บอนเอ็กซ์ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ที่มีวิสัยทัศน์เช่นเดียวกัน

การดำเนินงานของโครงการ "คาร์บอนเอ็กซ์"

คาร์บอนเอ็กซ์ เป็นโครงการที่ผสานทั้งการเร่งขับเคลื่อนพัฒนาการและการสร้างขีดความสามารถทางดิจิทัล เพื่อค้นหาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำแห่งอนาคต และส่งเสริมการประยุกต์ใช้งานในระดับใหญ่ภายในปี 2030 ด้วยการเร่งระดมเงินทุนและทรัพยากร โดยระยะแรกเริ่มของโครงการจะมุ่งเน้นไปที่โซลูชันและโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ CCUS เป็นหลัก โดยโครงการมี 3 ระดับหลักด้วยกัน ซึ่งเปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัย สถาบัน องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และบริษัทสตาร์ทอัปสามารถส่งแผนงานธุรกิจเข้าร่วมโครงการได้

  1. CarbonX Lab: ค้นหาและบ่มเพาะสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย หรือห้องปฏิบัติการที่มีศักยภาพในการสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่จะเป็นตัวพลิกเกมในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและช่วยสนับสนุนให้สามารถเปิดตัวโครงการนำร่องเพื่อสาธิตการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม
  2. CarbonX Accelerator: เร่งขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัปที่มีศักยภาพในการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่มาใช้ในเชิงพาณิชย์
  3. CarbonX Infrastructure: สนับสนุนการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ฐานข้อมูลและเครื่องมือเพื่อการติดตามการแยกคาร์บอน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางอุตสาหกรรม

ตามรายงานของสหประชาชาติ หน้าต่างแห่งโอกาสในการรักษาอุณหภูมิ 1.5?C กำลังปิดลงอย่างรวดเร็ว โดยเทนเซ็นต์ จะมุ่งมั่นใช้ทักษะ ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรของเราเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาความท้าทายระดับโลกนี้ต่อไป

ที่มา: เวิรฟ พับบลิค รีเลชั่นส์ คอนซัลแตนท์ซี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๙ ผู้ถือหุ้น READY อนุมัติปันผล อัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น ปักธงปี 68 รายได้โต 10% เติบโตตามเทรนด์การตลาดยุคดิจิทัล
๑๗:๐๗ JMART เตรียมเงินพร้อมคืนหุ้นกู้ 1,500 ล้านบาท ตอกย้ำเสถียรภาพการเงินปิดจ๊อบหุ้นกู้ 856.6 ล้านบาท ขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่น
๑๗:๓๗ Lorde เซอร์ไพรส์! ส่งเพลงใหม่ในรอบ 4 ปี What Was That พร้อมเอ็มวีแนว Vlog สุดเท่ ซีนยิ่งใหญ่แฟนเพลงรวมตัวกว่า 8,000
๑๗:๐๔ Kenny G คัมแบ็ค!! ชวนแฟน ร่วมดื่มด่ำสุนทรียภาพดนตรีแจซระดับโลกอีกครั้ง ใน Kenny G Live in Bangkok 2025 เปิดแสดง 4 กรกฎาคม
๑๗:๒๓ เปิดประตูสู่อนาคตไอที รำไพพรรณี MOU นครระยองวิทยาคมฯ สร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่
๑๗:๐๘ JGAB 2025 เวทีอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียนระดับโลก ดันไทยสู่ศูนย์กลางการค้าและนวัตกรรมเครื่องประดับอย่างยั่งยืน
๑๗:๐๒ อ.อ.ป. ร่วมยินดี อคส. ครบรอบ 70 ปี
๑๗:๓๗ กองทรัสต์อัลไล เดินหน้าขยายพอร์ต เตรียมลงทุน! 2 โครงการใหม่ ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ และ วิลเลจ ฮับ สายไหม โครงการคอมมูนิตี้มอลล์บนทำเลศักยภาพ
๑๗:๓๕ Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) รวมพลังคนกรุง สู้วิกฤตโลกร้อน
๑๗:๓๑ Sherwood Corporation จับมือ Conquest Crop Protection Pty Ltd ขยายช่องทางสู่ตลาดเคมีเกษตรในออสเตรเลีย