นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ เผยว่า "เรามุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจ Mega Trend ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากการลงทุนในเชิงบวกเป็นอย่างมาก เริ่มจาก 1.)ธุรกิจ Fintech 2.)ธุรกิจ Healthcare และ 3.)ที่ตอนนี้เรากำลังมีข่าวดีคือการนับถอยหลังเข้าสู่ตลาดหุ้น เอ็ม เอ ไอ (mai) ของ บมจ.ไทยพาร์เซิล หรือ TPL ที่เราตัดสินใจลงทุนด้วยเห็นว่าเป็นธุรกิจ Logistics ที่มีความสามารถโดดเด่นเฉพาะตัว แข่งขันกับผู้เล่นอื่นในตลาดได้สำหรับการส่งพัสดุชิ้นเล็ก ในขณะที่มีจุดแข็งคือเป็นหนึ่งเดียวที่สามารถส่งพัสดุชิ้นใหญ่ น้ำหนักมาก หรือไซต์/รูปทรงที่แปลก ได้ที่น้ำหนักสูงสุด 200 กิโลกรัม ซึ่งนี่เองเป็นจุดเด่นที่ทำให้ TPL มีทั้งลูกค้าบุคคลทั่วไปตลอดจนองค์กรระดับใหญ่ ซึ่งการเข้าลงทุนใน TPL ตอบโจทย์ key การลงทุนของบริษัท AQUA ได้อย่างชัดเจน"
"ทั้งนี้การได้เข้าลงทุนของ AQUA ทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มมูลค่าทางการลงทุนได้อย่างดี จึงมีนโยบายที่จะไม่ขายหุ้นออกแน่นอน ยินดีทำ Silent Period (ช่วงเวลาห้ามขายหุ้น) ตามเกณฑ์ของการเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ.ไทยพาร์เซิล หรือ TPL ซึ่งจะเริ่มซื้อขายในตลาดฯ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 นี้"
"อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นสนับสนุน รวมถึงสร้างให้เกิดการ synergy ระหว่างองค์กรเพื่อระบบนิเวศการทำงานที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เสริมความแข็งแกร่งภาพรวมของธุรกิจในเครือ ซึ่งมั่นใจว่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนในอนาคตอย่างแน่นอน"
ในขณะที่ธุรกิจ Logistics อีก segment หนึ่งซึ่งบริษัทฯ เข้าไปลงทุนไว้ได้แก่ บจก.เฉลิมภัทร ทรานสปอร์ต หรือ CPT อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมเข้าตลาดฯ ลำดับถัดไปในปี 2567 มีจุดแตกต่างกับ TPL คือให้บริการขนส่งคนหรือมีความเชี่ยวชาญด้านการทำ transportation แบบเฉพาะเจาะจง บริษัทฯ ทำการศึกษาอย่างถี่ถ้วนก่อนการลงทุนแล้วว่ามีจุดแข็ง กลุ่มลูกค้า และแหล่งรายได้ที่จะเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: อควา คอร์เปอเรชั่น