5G เป็นชัยชนะสำหรับทั้งผู้ให้บริการและผู้บริโภค ซึ่งได้ยกระดับอุตสาหกรรมมือถือไปอีกขั้น และยกระดับการบริโภคของผู้ใช้ผ่านประสบการณ์และแอปพลิเคชันใหม่ 5G ยังช่วยให้การส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านคลื่นไร้สายไปยังตัวรับสัญญาณ (FWA) เติบโตและพัฒนาเป็นบริการหลัก นอกจากนี้ 5G ยังเพิ่มขีดความสามารถให้กับการใช้งานในอุตสาหกรรมกว่า 50,000 การใช้งาน และขับเคลื่อนการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยในอนาคตอันใกล้นี้คาดว่า 5G จะช่วยส่งเสริมการใช้งาน รูปแบบธุรกิจ และโมเดลใหม่ ๆ การยกระดับสำหรับการเชื่อมต่อกับผู้คน เชื่อมต่อสิ่งต่าง ๆ เชื่อมต่อยานพาหนะ เชื่อมต่ออุตสาหกรรม เชื่อมต่อกับบ้าน และบริการ HCS จะช่วยเร่งความก้าวหน้าจาก 5G ไปสู่ 5.5G
บริการใหม่ที่สมจริงและเป็นแบบอินเทอร์แอ็กทีฟ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเชื่อมต่อของผู้คน
เนื้อหา 3 มิติ ประสบการณ์เสมือนจริง และบริการบนคลาวด์กำลังได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ใช้รายบุคคล ในขณะที่เทคโนโลยีการแสดงผลและเนื้อหาที่สร้างขึ้นด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AIGC) กำลังทำให้ภาพ 3 มิติที่มองด้วยตาเปล่าเป็นจริง อุปกรณ์เทคโนโลยีเสมือนจริงหลายมิติ (XR) ที่สมบูรณ์มีให้ใช้งานตั้งแต่รุ่นระดับเริ่มต้น ระดับกลาง และระดับไฮเอนด์ ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์และระบบนิเวศไปอีกขั้น โทรศัพท์ระบบคลาวด์และการโทรแบบใหม่ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ผู้ให้บริการทั่วโลกกำลังทดสอบความสามารถเชิงพาณิชย์ของค่าความเร็วอินเทอร์เน็ต 10 Gbps เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของบริการใหม่ ๆ
อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งที่หลากหลายในทุกสถานการณ์ ช่วยปรับปรุงขนาดและคุณภาพของสิ่งที่เชื่อมต่อ
อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) บน 5.5G จะครอบคลุมทุกสถานการณ์ตั้งแต่ความเร็วสูง ปานกลาง และความเร็วต่ำไปจนถึง IoT แบบพาสซีฟ ซึ่งช่วยลดต้นทุนการเชื่อมต่อได้อย่างครอบคลุม ระบบเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (RedCap) ถูกนำไปใช้เชิงพาณิชย์อย่างกว้างขวางแล้ว เพื่อรองรับการเชื่อมต่อในอุตสาหกรรม การติดตั้งในยานพาหนะ และการเชื่อมต่อที่สวมใส่กับตัวได้ นอกจากนี้ IoT แบบพาสซีฟที่เติบโตอย่างรวดเร็วจะช่วยพัฒนาชีวิตของผู้บริโภคในด้านต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้าและอาหาร โดยช่วยให้มองเห็นภาพการผลิต คลังสินค้า และโลจิสติกส์ในโรงงานที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์
การรวมเข้าด้วยกันในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมหลักช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการผลิตที่ชาญฉลาดและคล่องตัว ทำให้ 5G กลายเป็นสิ่งจำเป็นในกระบวนการผลิตหลัก ซึ่งรองรับสถานการณ์ที่ต้องการทั้งการควบคุมแบบเรียลไทม์และความน่าเชื่อถือระดับสูง การปรับปรุงความสามารถของ 5G อย่างครอบคลุม เช่น เวลาแฝงต่ำ ความน่าเชื่อถือสูง และการส่งสัญญาณอัปลิงก์สูง จะขยายการเชื่อมต่อไร้สายที่เห็นในโรงงานต่าง ๆ ลดต้นทุนการปรับสายการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
ระบบขนส่งอัจฉริยะที่มีความน่าเชื่อถือสูง ช่วยปรับปรุงขีดความสามารถของยานพาหนะแบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การทำงานร่วมกันระหว่างระบบคลาวด์สำหรับรถยนต์ (vehicle-cloud) ระบบสื่อสารที่เชื่อมรถยนต์กับท้องถนน (vehicle-road) และระบบสื่อสารไร้สายในรถยนต์แต่ละคัน (vehicle-vehicle) ทำให้รถสามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณไฟจราจรและเซนเซอร์ต่าง ๆ ได้มากมาย ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการจราจรและความสามารถในการจัดการได้อย่างมาก ในขณะที่ลดจำนวนอุบัติเหตุทางจราจรลงได้ด้วย มีการตรวจสอบเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างยานพาหนะกับสิ่งต่าง ๆ โดยผ่านสัญญาณ 5G (5G V2X) ในสถานการณ์การจราจรหลายแบบกว่า 95% โดยสามารถช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้ 25% และทำให้การจราจรเคลื่อนตัวเร็วขึ้นกว่า 20%
บริการระบบสมาร์ทโฮมที่หลากหลายขับเคลื่อนแอปควบคุมบ้านอัจฉริยะ
คอลเลกชันบริการภายในบ้านที่หลากหลายกำลังเติบโต ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหน้าจอขนาดใหญ่แบบง่าย เครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะที่สะดวกยิ่งขึ้น การเล่นเกมผ่านคลาวด์ และหน้าจอ 3D ขนาดใหญ่ที่สมจริง ในตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่น ๆ ผู้ให้บริการชั้นนำได้เริ่มให้บริการบรอดแบนด์ภายในบ้านความเร็ว 10 Gbps เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ และกิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลาย
ระบบ HCS นำโอกาสใหม่ ๆ มาสู่การตรวจจับระดับโลก
5.5G ที่มีเทคโนโลยี HCS จะขยายบริการจากการสื่อสารเพียงอย่างเดียวไปสู่การผสานรวมการตรวจจับการสื่อสาร โดยสามารถช่วยในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ เช่น การตรวจจับจุดบอดบนถนน คำเตือนอุบัติเหตุ การตรวจจับเรือเดินทะเล และการปฏิบัติการบนเรือแบบอัตโนมัติเพื่อพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะและการเดินเรืออัจฉริยะ HCS ได้รับการตรวจสอบอย่างกว้างขวางในสาขาต่าง ๆ ที่ระบุโดยระบบขนส่งอัจฉริยะ และได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการสร้างเครือข่ายทั่วไป
คุณเฉาอธิบายสรุปการบรรยายว่า 5.5G จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมือถือต่อไปได้อย่างไร และนำมาซึ่งความเป็นไปได้ที่มากขึ้นสำหรับชีวิตอัจฉริยะและเศรษฐกิจดิจิทัล หัวเว่ยจะทำงานควบคู่ไปกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการรวมห่วงโซ่อุตสาหกรรม 5.5G ไว้ในสถานการณ์ทางธุรกิจ และทำให้ 5.5G กลายเป็นจริง
— จบ —
หัวเว่ยจะร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่บูธ E10 และ E50 ณ ฮอลล์ N1 ของศูนย์จัดแสดงสินค้านานาชาติเซี่ยงไฮ้ (SNIEC) หัวเว่ยจะร่วมมือกับผู้ให้บริการระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิดในการอภิปรายหัวข้อต่าง ๆ เช่น การเร่งการเติบโตของเทคโนโลยี 5G การก้าวสู่ยุค 5.5G และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอัจฉริยะ ทั้งนี้ เทคโนโลยี 5.5G ได้มอบโอกาสในการสร้างมูลค่าทางธุรกิจใหม่ ๆ เช่น การเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และยานพาหนะที่สื่อสารกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ต (IoV) สนับสนุนอุตสาหกรรมจำนวนมากในขณะที่กำลังก้าวไปสู่โลกอัจฉริยะ เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://carrier.huawei.com/en/events/mwcs2023
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2144141/Mr_Cao_Ming_delivering_a_keynote_speech.jpg