PRIME เผยความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดใหญ่ในไต้หวัน

จันทร์ ๐๓ กรกฎาคม ๒๐๒๓ ๑๐:๒๒
บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME โดยนายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารและนายพิรุณ ชินวัตร ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน ร่วมกันรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 และแผนธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ พร้อมรายงานความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไต้หวัน และ Private PPA ในประเทศอินโดนีเซีย ในงาน SET Opportunity Day เมื่อ 19 มิถุนายน 2566

รายได้รวมของบริษัท ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2566 หากเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2565 รายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 162.3 จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในทุกธุรกิจ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น และ EBITDA ของบริษัทดีขึ้น ทั้ง YoY และ QoQ จากรายได้การขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้า 77 เมกกะวัตต์ที่ประเทศกัมพูชา

ด้านความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน Miaoli Lake West กำลังการผลิต 200 เมกกะวัตต์เป็นหนึ่งโครงการใหญ่ของ PRIME ในประเทศไต้หวันที่อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ เฟสที่ 1 PRIME ได้ทำสัญญาเช่าที่ดินเป็นจำนวน 85 เฮกตาร์ได้เรียบร้อยแล้วและกำลังอยู่ในการขอรับใบอนุญาต Establishment license และใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน  โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างโครงการได้ ภายในเดือนมิถุนายนปี 2567 และจะก่อสร้างเสร็จภายในไตรมาส 4 ของปี 2568

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนบ่อเลี้ยงปลา Budai Outdoor Fishfarm ในจังหวัดเจียอี้ ขนาด 99 เมกกะวัตต์ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการใหญ่ของ PRIME ในประเทศไต้หวันเช่นกัน ในปัจจุบันทาง PRIME ได้รับสิทธิการใช้ที่ดินมาเป็นจำนวนกว่า 100 เฮกตาร์ เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการขอรับใบอนุญาต Establishment license และใบอนุญาตอื่นๆที่เกี่ยวข้อง  คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 1 ปี 2568 แล้วก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วง Q2 ของปี 2569 ตามลำดับและหลังจากที่ทาง PRIME ได้ดำเนินการพัฒนาและก่อสร้างโครงการ Indoor Fishfarm Xitong 1 และ 2 สำเร็จพร้อมดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อ  30 ธันวาคม 2565 นั้น ทาง PRIME ได้พัฒนาและก่อสร้างโครงการประเภท Indoor Fishfarm เพิ่มเติมอีกจำนวน 3 กลุ่มโครงการ โดยโครงการ Xitong 3 และ 4 และ Xitong 8 และ 9 อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2566  

นอกจากโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศไต้หวัน PRIME ได้วางเป้าหมายและแผนธุรกิจให้ประเทศอินโดนีเซียเป็นพื้นที่เป้าหมาย ทาง PRIME ได้เริ่มดำเนินการพัฒนาและก่อสร้างโครงการ Solar rooftop แบบ Private PPA กับทางบริษัทเอกชนจากประเทศเกาหลีเป็นโครงการแรก โดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 900 กิโลวัตต์ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา และมีโอกาสในการพัฒนาเฟส 2 และ 3 รวมถึงโอกาสขยายไปที่เกาะอื่นๆ เนื่องจากไฟฟ้าของประเทศอินโดนีเซียในหลายพื้นที่ยังเข้าไม่ถึง หรือ ไม่เสถียร จึงเป็นโอกาสของระบบผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ไม่ต้องก่อสร้างสายส่งขนาดใหญ่มาก และใช้ระบบกักเก็บพลังงานเข้าร่วมด้วย ทาง PRIME คาดการณ์ว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จและเริ่มดำเนินการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในปลายปี 2566 นี้

ที่มา: ไพร์ม โรด เพาเวอร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO