Thailand Coffee Fest 2023 ปักธงพา 'กาแฟพิเศษ' สัญชาติไทยไปเวทีโลก พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อน Coffee Ecosystem กาแฟไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ศุกร์ ๐๗ กรกฎาคม ๒๐๒๓ ๑๔:๐๗
Thailand Coffee Fest 2023 ประกาศความพร้อมการจัดเทศกาลเพื่อคนรักกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคม 2566 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 - 8 เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด "Good Coffee for Everyone" เพื่อสร้างกาแฟที่ดีต่อทุกคนและโลกไปด้วยกัน พร้อมยกระดับวงการ 'กาแฟพิเศษ' ไทยสู่ตลาดโลก ตั้งเป้าหนุนตลาดกาแฟพิเศษโตอย่างยั่งยืน พร้อมประกาศเดินหน้าสู่การเป็น Coffee Hub of Asia ใน 3 ปี

คุณกรณ์ สงวนแก้ว อุปนายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย กล่าวว่า ความนิยมบริโภคกาแฟของคนไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปัจจุบันการดื่มกาแฟกลายเป็นกิจวัตรและไลฟ์สไตล์ของคนไทย โดยพบว่าสถิติการบริโภคกาแฟของคนไทยมีการเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว จาก 180 แก้วต่อคนต่อปี เป็น 300 แก้วต่อคนต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศแถบยุโรปที่ดื่มกาแฟกันมากถึง 600 แก้วต่อคนต่อปี จึงทำให้ตลาดกาแฟในประเทศไทยยังสามารถเติบโตได้อีก รวมถึงกระแสความนิยมของ Specialty Coffee หรือกาแฟพิเศษที่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การจัดงานThailand Coffee Fest ที่ถือเป็นเทศกาลกาแฟแรกที่มีการส่งเสริมให้เกิดการรับรู้ในคุณค่าและความพิเศษของกาแฟพิเศษสัญชาติไทย โดยปัจจุบันพบว่า กระแสความนิยมกาแฟพิเศษในไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยปัจจุบันภาพรวมตลาดกาแฟพรีเมี่ยม อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท คิดเป็น Specialty Coffee ประมาณ 2,000 ล้านบาท (ราว 10% ของทั้งหมด) และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดย Specialty Coffee หรือ กาแฟพิเศษ ที่คัดสรรเพื่อได้เมล็ดที่มีคุณภาพก่อนนำไปผ่านกระบวนการแปรรูป และคั่วอย่างมีหลักการ ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายก็คือกาแฟที่มีรสชาติเฉพาะตัว และให้รสสัมผัสที่แตกต่างจากกาแฟปกติ ส่วนราคาขายก็สูงขึ้นเท่าตัวจากกาแฟทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น กาแฟพิเศษสัญชาติไทยจากแหล่งปลูกบ้านมณีพฤกษ์ ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟพิเศษไทยในปีนี้ สามารถทำราคาประมูลได้สูงถึง 10,010 บาทต่อกิโลกรัม

"ในอดีตคอกาแฟมักจะคุ้นเคยกับกาแฟจากบราซิล, เอธิโอเปีย, กัวเตมาลา และโคลอมเบีย แต่ปัจจุบัน Specialty Coffee ของไทยเริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นกาแฟดาวรุ่งที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดในประเทศ และต่างประเทศ" 

Thailand Coffee Fest เทศกาลเพื่อคนรักกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2016 ด้วยความร่วมมือระหว่าง สมาคมกาแฟพิเศษไทย และ คลาวด์แอนด์กราวนด์ ที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อการส่งเสริม กาแฟพิเศษสัญชาติไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยถือเป็นผู้บุกเบิกสำคัญที่ทำให้เกิดกระแสความนิยมกาแฟพิเศษไทย ในประเทศไทย และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดการพัฒนาของอุตสาหกรรมกาแฟพิเศษในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยในปีนี้กลับมาอีกครั้ง ภายใต้แนวคิด "Good Coffee for Everyone" เพื่อสร้างค่านิยมใหม่ของการบริโภคกาแฟที่ดีต่อทุกคนและโลกไปด้วยกัน

คุณช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จของงาน Thailand Coffee Fest ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าถึงกระแสความนิยมที่มีต่อ Specialty Coffee ในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นในทุกปี สะท้อนได้จากจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งผู้ที่อยู่ในธุรกิจและอุตสาหกรรมกาแฟ ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยปีที่ผ่านมามีผู้ร่วมงานสูงถึง 76,342 คน ถือเป็นงานกาแฟที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานสูงเป็นอันดับ2 ของโลก ซึ่งได้สร้างมูลค่าเศรษฐกิจในภาพรวมภายในงานมากกว่า 570 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะมีผู้ร่วมงานมากกว่า 100,000 คน โดยเชื่อว่าจะเกิดมูลค่าเศรษฐกิจในภาพรวมไม่น้อยกว่า750 ล้านบาท 

"การกลับมาของ Thailand Coffee Fest 2023 ในครั้งนี้ จะยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ที่จะเนรมิตดินแดนของคนรักกาแฟ บนพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม. ซึ่งจะจัดแบ่งออกเป็น 9 โซน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนรักกาแฟ ทั้งผู้ที่อยู่ ในธุรกิจต้นน้ำ ผู้ประกอบการ นักธุรกิจที่สนใจเริ่มต้นทำธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟ ให้สามารถยกระดับความรู้และต่อยอดธุรกิจได้ผ่านกิจกรรมภายในงานมากมาย ทั้งการเสวนา เวิร์คช้อป การประกวดทั้งระดับประเทศและระดับโลก โดยมี ไฮไลท์สำคัญ คือ การแข่งขัน World Es Yen Championship 2023, การแข่งขัน Thailand Coffee Event 2024 และเป็นครั้งแรกกับการประกวด Thailand Coffee Packaging Awards 2023 ส่วนคอกาแฟก็จะได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ ของการได้ลิ้มรสกาแฟพิเศษไทยจากฟาร์มกาแฟชั้นนำและคาเฟ่ชื่อดังทั่วประเทศ และการเลือกซื้อสินค้าที่จะมารวมกันอยู่ภายในงานครั้งนี้ จึงทำให้ Thailand Coffee Festเป็นเทศกาลกาแฟที่ใหญ่และครบที่สุดที่คนรักกาแฟต้องการ รวมถึงจะเป็นเทศกาลกาแฟที่จะได้กระทบไหล่แชมป์บาริสต้าระดับโลกในแวดวงกาแฟ ที่จะมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย" 

นอกจากนี้ สิ่งที่ Thailand Coffee Fest ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง คือ การสร้างสรรค์อีเว้นท์ที่ดีต่อโลกด้วยแนวคิด Sustainable Event ด้วยการใช้การตกแต่งงานด้วยวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่สามารถนำมา Upcycling และส่งต่อได้ รวมถึงการจัดการขยะที่ได้มาตรฐานและสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้ร่วมงานจนเกิดเป็นวัฒนธรรมของผู้ร่วมงาน Thailand Coffee Fest ที่จะช่วยกันแยกขยะ โดยเราได้ตั้งเป้าหมายจากการเป็นผู้บุกเบิกงานอีเว้นท์แบบ Sustainable Event ครั้งแรก สู่เป้าหมายใหม่ในการการเป็นอีเว้นท์ Net Zero แห่งแรกในประเทศไทย

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา Thailand Coffee Fest ได้สร้างปรากฏการณ์มากมายให้กับวงการกาแฟไทย รวมถึงการสร้าง Coffee Ecosystem ที่แข็งแกร่ง นำไปสู่การยกระดับ Coffee Economy ที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นที่ยอมรับจากผู้คนในวงการกาแฟไทยและต่างประเทศ พร้อมประกาศเดินหน้าสู่การเป็น Coffee Hub of Asia ใน 3 ปี 

Thailand Coffee Fest 2023 เทศกาลเพื่อคนรักกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีขึ้นในวันที่ 13-16 กรกฎาคมนี้ ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 - 8 เมืองทองธานี ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดกิจกรรมในแต่ละวันได้ที่ ได้ที่เฟสบุ๊ก Thailand Coffee Fest คลิกhttps://www.facebook.com/ThailandCoffeeFestหรือเว็บไซต์ www.thailandcoffeefest.org

ที่มา: ชมฉวีวรรณ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย
๐๙:๑๘ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จัด Pitching day การเขียนโฆษณา และ การเล่าเรื่องผ่านแคมเปญ
๐๙:๔๔ รมว.เอกนัฏ โชว์ ดีพร้อม หนุนซอฟต์พาวเวอร์แฟชั่นไทย ในงาน ShowPow ต้อนรับปีใหม่ ส่งเสริมอัตลักษณ์ท้องถิ่น
๐๙:๓๒ กรมส่งเสริมการเกษตร จับมือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) หารือแนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายใต้โครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล (OTOD ทุเรียนดิจิทัล)
๐๙:๐๘ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ภายใต้โครงการ อายิโนะโมะโต๊ะ โภชนาการเพื่อเด็กไทย