เอนก จงเสถียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มเอ็มพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนเป็นอย่างมาก จึงได้พัฒนาตั้งแต่กระบวนการผลิตให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ โดยปีที่ผ่านมาสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต (Carbon Footprint Reduction หรือ CFPR) ได้มากกว่า 2 % ทำให้ฟิล์มถนอมอาหารเอ็ม แรป ได้รับการรับรองฉลากสินค้าลดโลกร้อนจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นแบรนด์ฟิล์มถนอมอาหารชั้นนำของไทยที่พร้อมแข่งขันบนเวทีโลก และตระหนักถึงความยั่งยืนตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงปลายทางในการคัดแยกขยะเพื่อนำไปรีไซเคิลได้อีก
ขณะที่ ฟิล์มถนอมอาหาร เอ็ม แรป ตอกย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ 'ลดขยะอาหาร' ด้วยคุณสมบัติเด่นในการยืดอายุและถนอมอาหารได้นานขึ้น ลดการเน่าเสียของอาหาร และได้ให้ความสำคัญการจัดการผลิตภัณฑ์ด้วยการรีไซเคิลขยะพลาสติกอย่างถูกวิธี ผ่านโครงการ 'เก็บ เพื่อ กลาย' ที่ได้ร่วมกับคู่ค้าโรงแรมทั่วประเทศ
นอกจากนี้บริษัทได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานและลดขั้นตอนการรีไซเคิล โดยเปิดตัวสินค้าใหม่ ฟิล์มถนอมอาหาร เอ็ม แรป รุ่นย่อยสลายได้ 100% โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อธรรมชาติและมีความปลอดภัยกับอาหาร (Food Grade) ทั้งนี้ได้เร่งพัฒนาสินค้าให้มีคุณสมบัติยืดอายุอาหารให้เท่าเทียมกับฟิล์มถนอมอาหารในปัจจุบัน และลดต้นทุนสินค้าเพื่อให้คู่ค้าและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ในวงกว้าง
สำหรับการต่อยอดสินค้า นอกจากฟิล์มยืดถนอมอาหาร บริษัทได้ทำการพัฒนา ฟิล์มยืดพันพาเลท 'เอ็ม เสตรช' จากเม็ดพลาสติก PCR โดยมีส่วนผสมของเม็ดพลาสติกรีไซเคิลมากถึง 30% หรือที่เรียกว่า Post Consumer Recycled Materials ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของผู้ผลิตและคู่ค้าผู้ใช้งาน ในการรวบรวมฟิล์มยืดที่ใช้แล้วเพื่อนำกลับมาผลิตเป็นสินค้าอีกครั้ง ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด แต่คงไว้ซึ่งคุณภาพของสินค้า โดยวางแผนจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้านประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มเอ็มพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวต่อไปว่า "สินค้า 'เอ็ม แรป' และ 'เอ็ม เสตรช' ได้ตอบโจทย์ด้าน Carbon Footprint และ PCR ที่ชัดเจนมาก เห็นได้จากการวางแผนกระบวนการผลิตที่เราตั้งใจให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงในกระบวนการนี้ การใช้งานฟิล์มถนอมอาหารที่ส่งผลดีในการลดขยะอาหาร ซึ่งเป็นขยะที่มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ส่งต่อไปยังการรีไซเคิลเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากร สามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างไม่รู้จบ นับว่าเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริงที่ช่วยลดของเสียที่ต้องนำไปทิ้ง ทั้งหมดนี้ที่เราได้เริ่มดำเนินการ เพื่อเป็นการขานรับเรื่องภาษีคาร์บอนสำหรับผู้ส่งออกและตอบรับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ หรือ COP21
ทั้งนี้บริษัท เอ็มเอ็มพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยังคงมุ่งศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกไลน์สินค้า เพื่อลดขยะอาหารและสินค้าที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืนในอนาคตติดตามข้อมูล ข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mmpcorp.co.th/
ที่มา: เอ็มเอ็มพี คอร์ปอเรชั่น