นายปราโมทย์ สุดจิตพร ประธานกรรมการ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "นับจากปีที่แล้วที่บริษัท แอสเฟียร์ฯ ได้ปรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจจากเดิมที่ให้บริการเกมออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งสู่การเป็นบริษัทด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ทำให้เราสนใจนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จนถึงปัจจุบันเราเล็งเห็นถึงโอกาสและมีความเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนหรือเว็บ 3.0 จะเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต เราจึงมีความสนใจเข้าลงทุนในบริษัทบิทคับ ออนไลน์ เนื่องจากเป็นผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลอันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90% รวมถึงกลุ่มบิทคับยังมีความเชี่ยวชาญและมีระบบนิเวศด้านบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีที่ครบวงจรมากที่สุด ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและต่อยอดธุรกิจของแอสเฟียร์ฯ รวมถึงบริษัทในกลุ่มให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ในหลากหลายด้าน อาทิ การนำฐานข้อมูลธุรกรรมบนระบบออนไลน์ขึ้นบล็อกเชนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น การประยุกต์เทคโนโลยีบล็อกเชนกับธุรกิจเกมในรูปแบบ Play & Earn และ การพัฒนา Metaverse รวมถึงการสร้าง dApps (Decentralized Applications) เพื่อต่อยอดบริการใหม่ ๆ ในธุรกิจปัจจุบันของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ แอสเฟียร์ฯ ยังมีความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน และมีฐานลูกค้ามากกว่า 180 ล้านไอดี ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความใกล้เคียงกับฐานลูกค้าของบิทคับ
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า "ขอขอบคุณ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนหรือเว็บ 3.0 ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ และได้ซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในครั้งนี้
โดยก่อนหน้านี้ บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) โดยมีการตั้งบริษัทร่วมทุน ในนาม บริษัท คับเพลย์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (KUBPLAY) ดังนั้น การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนกลุ่มบริษัทบิทคับ จะได้พันธมิตรด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่สำคัญอย่าง บริษัท แอสเฟียร์ฯ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เกม รวมถึงธุรกิจสื่อและการตลาด เข้ามาผนึกกำลังในกลุ่มบิทคับ รวมไปถึงการสนับสนุนจากพันธมิตรที่เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ของบริษัท แอสเฟียร์ อีกด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทั้งสองบริษัทมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจและการทำงานที่สอดคล้องกัน ดังนั้น กลุ่มบริษัทบิทคับ และ แอสเฟียร์ฯ พร้อมจะแบ่งปันจุดแข็งที่ต่างฝ่ายมี เพื่อ 'เสริมสร้าง' ความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทบิทคับให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ การจับมือกันในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการร่วมกันวางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้กลุ่มบริษัทบิทคับ สามารถขยายตลาดไปสู่ระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต"
เกี่ยวกับ บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (เดิมชื่อ บมจ. เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น) ก่อตั้งขึ้น ณ วันที่ 20 กันยายน 2544 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 (SET : AS) ปัจจุบันดำเนินกิจการเกี่ยวกับ Digital Technology โดยปัจจุบันประกอบไปด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ Online Games, Blockchain & Innovation Technologies, Marketing Technologies และ Corporate Venture Capital
เกี่ยวกับ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด
บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub Online Co., Ltd.) หรือที่รู้จักกันในนาม บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ (Bitkub Exchange) เป็นศูนย์ซื้อขายในไทย ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในปี 2565 ได้รับ ISO/IEC 27001 มาตรฐานระบบบริหารจัดการความปลอดภัยข้อมูล และล่าสุดได้รับ ISO/IEC 27701 มาตรฐานระบบการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล จากสถาบันรับรองมาตรฐานแห่งชาติของประเทศอังกฤษ***
อ้างอิง
***ISO27001 ได้รับวันที่ 18 ม.ค. 65 สิ้นสุดวันที่ 17 ม.ค. 68 และ ISO27701 ได้รับวันที่ 9 ธ.ค. 65 และสิ้นสุดวันที่ 17 ม.ค. 68
ที่มา: บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์