นายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา DITP มุ่งมั่นส่งเสริมนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพให้ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็นแบรนด์นักออกแบบมืออาชีพ หรือผู้ประกอบการส่งออกรายใหม่ที่ช่วยขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการของประเทศ รวมทั้งมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 13 ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและแนวโน้มเมกะเทรนด์โลกที่มีผลต่อมูลค่าความต้องการของตลาด DITP จึงได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างจุดแข็งให้กับสินค้าและธุรกิจบริการไทย โดยให้ความสำคัญในประเด็นสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ผนวกกับการนำ Soft Power มาใช้สร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการในยุค Next Normal และเมกะเทรนด์ได้ ทำให้โครงการฯ นี้เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยอัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมตอบสนองความท้าทายใหม่ๆ และเทรนด์โลก เช่น Circular Design และการดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน SDGs เป็นต้น"
นางสาวประอรนุช ประนุช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "โครงการ Designers' Room / Talent Thai & Creative Studio Promotion 2023 ในปี 2566 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Keep an eye on : The Creative Power Of The New Era" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการส่งออกให้สามารถพัฒนาธุรกิจและปรับตัวเพื่อตอบสนองกับความต้องการของตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและก้าวสู่การเป็น "แบรนด์นักออกแบบ" หรือ "เป็นผู้ประกอบการส่งออกรายใหม่" ที่สร้างมูลค่าทางการค้าและมีบทบาทในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีนักออกแบบที่ได้รับการพัฒนาจากโครงการฯ รวม 744 แบรนด์ สามารถสร้างประโยชน์และชื่อเสียงให้กับประเทศได้เป็นจำนวนมากและเป็นเวทีบ่มเพาะนักออกแบบรุ่นใหม่ให้ได้รับโอกาสสามารถขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับนานาชาติเป็นจำนวนมาก
โดยในปีนี้โครงการส่งเสริมนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก หรือ Designers' Room / Talent Thai & Creative Studio Promotion มีนักออกแบบผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศ จำนวน 60 แบรนด์เป็นนักออกแบบจากกรุงเทพฯ/ปริมณฑล 48 แบรนด์ และนักออกแบบจากภูมิภาค 12 แบรนด์ จากเชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ กำแพงเพชร กาญจนบุรี ชลบุรี ภูเก็ต สงขลา นครศรีธรรมราช และกระบี่ โดยแบ่งเป็น3 กลุ่ม ตามประเภทสินค้า/บริการ ดังนี้
1. นักออกแบบกลุ่มสินค้าแฟชั่น Designers' Room 34 ราย แบ่งเป็น
- เครื่องประดับ 14 ราย ได้แก่ A.CEMI JEWELRY, ADOR N ADORN, BE SHINE, BILLYBEAMO, CHERINADDED, GROUND.JEW, JIIRA, JPADA, LE GRAMOUS, MORMORMOR, NONNA NYONYA STUDIO, SARR.RAI, WE-IN-C, W0dd
- กระเป๋า 12 ราย ได้แก่ AIBELLE, AKANEG FORM, BAGWARD, E-NANG, HONNAN, LANTARAY, MAMAD, MINCE, PAVI STUDIO, PHANA, TAYALIVING, THOC
- เสื้อผ้า 8 ราย ได้แก่ CLOTHEAR VESTIAIRE, {JUN}, KH EDITIONS, MARIONSIAM, PURASA, SUCETTE, TEEMA RUCKSAJIT, TISI
2. นักออกแบบกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ Talent Thai 22 ราย แบ่งเป็น
- เซรามิก 4 ราย ได้แก่ 12C STUDIO, ANOTHER CUP, GA.LI.GO, ORACLAY
- เฟอร์นิเจอร์ 1 ราย ได้แก่ PIECE BY PEAZE
- ของตกแต่งบ้าน 9 ราย ได้แก่ 103PAPER SHOP, ANEW.CRAFT, CALIIICO, CHAND, HIZOGA, LOQA, MAKKHA DESIGN, MYS PROJECTS, WASTEMATTERS
- สินค้าไลฟ์สไตล์ 3 ราย ได้แก่ EKKO, EXCITING STORE, GLISTEN
- สินค้า SPA 5 ราย ได้แก่ KUSU, PAWANG, SEDAR.W, SKIN & TONIC, VAANG
3. นักออกแบบกลุ่มธุรกิจบริการออกแบบ Creative Studio 4 ราย แบ่งเป็น
- Branding & CI 2 ราย ได้แก่ IHAPSTUDIO, TOTOP
- Character Design 1 ราย ได้แก่ PLUSHIE
- Craftwork & Decorative Item 1 ราย ได้แก่ THE RUBBER PARADOXII
ซึ่งนักออกแบบทั้งหมดจะได้เข้ารับการอบรมพัฒนาความรู้ในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศใน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร "ความรู้พื้นฐานของการเป็นนักออกแบบระดับสากล" และหลักสูตร "ค่ายบ่มเพาะนักออกแบบไทยสู่สากล (CO-BRAND)" โดยในครั้งแรกของการอบรมได้รับเกียรติจาก คุณภาณุ อิงคะวัติ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ มาร่วมให้ความรู้ซึ่งการสร้างแบรนด์เป็นหัวใจที่สำคัญที่จะช่วยทำให้แบรนด์นักออกแบบไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมเหล่ารุ่นพี่ศิษย์เก่า (Alumni Team) มาทำหน้าที่เป็น Mentor เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือในอนาคต รวมทั้งยังมีกิจกรรมที่เน้นการลงมือปฏิบัติจริงผ่านแบบทดสอบของโครงการ เช่น กิจกรรมของพาร์ทเนอร์อย่าง Limited Education ที่ร่วมมือกับนักออกแบบเพื่อสร้างสรรค์ผลงานออกแบบที่สะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และนำไปสู่การระดมทุนจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เด็กไทยซึ่งจะจัดขึ้นตลอดเดือนสิงหาคม - กันยายน 2566
นอกจากนี้ นักออกแบบจะได้รับการส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์แบรนด์ผ่านสื่อชั้นนำและได้รับโอกาสในการเข้าร่วมเจรจาการค้าในงานแสดงสินค้าและเวทีการออกแบบชั้นนำระดับโลก เช่นงานBangkok Gems and Jewelry Fair 2023, งาน MAISON & OBJET ในปารีส, งาน STYLE Bangkok 2024, งาน Milan Design Week 2024 และเข้าร่วม Fashion Showroom ณ นครเซี่ยงไฮ้ เป็นต้น"
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามและสอบถามข้อมูลของโครงการเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th สายด่วนการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169 หรือผ่านทาง Facebook page : Talent Thai & Designers' Room
ที่มา: ชมพีอาร์