คุณอัศวิน - คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ร่วมเผยถึงแนวคิดของโครงการ "ปลูกไม้ใหญ่ให้บ้านเรา" ว่า "กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ให้ความสำคัญกับนโยบายด้านความยั่งยืน โดยดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วยหลักบรรษัทภิบาล ตามแนวทาง ESG ในทุกกลุ่มธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการปลูกไม้ใหญ่ให้บ้านเราเป็นหนึ่งโครงการสำคัญที่เกิดขึ้นด้วยความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของป่าไม้ที่เป็นตัวช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อน โครงการ ฯ จึงเลือกไม้ยืนต้นที่แข็งแรง ทนไฟ เติบโตง่าย มีอายุยืนยาว และมีความสามารถในการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี เพื่อฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยบริษัท ฯ ตั้งเป้าหมายเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ. 2050 หรือ พ.ศ. 2593"
สำหรับโครงการปลูกป่าในครั้งนี้ คุณอัศวิน - คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล นำคณะผู้บริหารและพนักงาน ร่วมกับ คุณวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอเชียงของจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยผู้ชำนาญการพิเศษจากกรมป่าไม้ คณะผู้ใหญ่บ้าน ครู และนักเรียนจากชุมชนโดยรอบ ลงพื้นที่ปลูกต้นไม้ 20,000 ต้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมจำนวน 100 ไร่ สานต่อเจตนารมณ์ตามนโยบายขององค์กรและผู้บริหารที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินการเพื่อความยั่งยืน โดยกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากกรมป่าไม้ในการจัดสรรพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม พร้อมทั้งทรัพยากรต่าง ๆ ที่ใช้ปลูกและดูแลต้นไม้ตลอดระยะเวลา 10 ปี
เขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอยหลวง ป่าน้ำยาว และป่าน้ำซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เป็นป่าสงวนแห่งชาติที่เกิดความเสื่อมโทรมตามธรรมชาติ ทำให้ยากที่จะกลับฟื้นคืนได้เองตามธรรมชาติ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไผ่ยืนต้นตาย ช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาพบปัญหาไฟป่าจากวัชพืชและไผ่ที่เป็นเชื้อเพลิง อีกทั้ง ยังประสบกับน้ำป่าไหลหลากรุนแรง โดยความเสื่อมโทรมของป่าได้ส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบข้างในด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่ลดลง ตลอดจนแหล่งอาหารสำหรับชาวบ้าน อาทิ เห็ด หน่อไม้ และสมุนไพร ก็มีจำนวนน้อยลง ดังนั้น โครงการ "ปลูกไม้ใหญ่ให้บ้านเรา" โดยกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี จึงมุ่งเน้นคัดเลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมสำหรับการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม ซึ่งประกอบด้วย ต้นสัก ต้นมะค่าโมง ต้นหว้า ต้นมะขามป้อม และต้นพยุง เพื่อฟื้นฟูให้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแห่งนี้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีศักยภาพในการช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น ปรับสมดุลความหลากหลายทางชีวภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี