เซลล์ที่ผลิตในโรงงานที่ชิงไห่ใช้เทคโนโลยีไอ-ท็อปคอนชนิดเอ็นไทป์ขั้นสูง ซึ่งทรินา โซลาร์ เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ด้วยนวัตกรรมตัวปล่อยโบรอนระดับแนวหน้าและโครงสร้างท็อปคอนที่เคลือบผิวด้วยวิธีการตกสะสมไอเคมีเสริมพลาสมา (PECVD) ทำให้ประสิทธิภาพของเซลล์สูงถึง 26% โดยผลิตภัณฑ์โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น (Vertex N) ขนาด 700 วัตต์ ซึ่งติดตั้งเซลล์ ไอ-ท็อปคอน ชนิดเอ็นไทป์ ขนาด 210 มม. ให้กำลังไฟสูง ประสิทธิภาพสูง ค่าพลังงานสูง ความน่าเชื่อถือสูง และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย (LCOE) ต่ำ จึงให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าและคุ้มค่ากว่าแก่ลูกค้า
ด้วยคุณลักษณะเด่นที่เปิดกว้างและมองการณ์ไกล เทคโนโลยีเซลล์ขนาด 210 มม. กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของวงการ โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเซลล์ได้ถึง 30% และเทคโนโลยี 210 มม. ที่ก้าวล้ำนี้จะส่งให้ ทรินา โซลาร์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์เข้าสู่ยุค 600W+ พร้อมทั้งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในยุคของเทคโนโลยีเอ็นไทป์
แผนบูรณาการเทคโนโลยีเอ็นไทป์ของทรินา โซลาร์ ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งและอัปเกรดด้วยการสนับสนุนของเทคโนโลยีไอ-ท็อปคอนชนิดเอ็นไทป์ขั้นสูง ประกอบกับการผสานรวมกำลังการผลิตแท่งซิลิคอน เวเฟอร์ เซลล์ และโมดูล โดยคาดว่ากำลังการผลิตเซลล์ของทรินา โซลาร์ จะแตะที่ 75 กิกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวรวมถึงเซลล์ชนิดเอ็นไทป์ 40 กิกะวัตต์ และทั้งหมดนี้ติดตั้งเทคโนโลยีไอ-ท็อปคอนชนิดเอ็นไทป์ขั้นสูง
โรงงานผลิตเซลล์และโมดูลชนิดเอ็นไทป์ของบริษัทเริ่มดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่องตามลำดับมาตั้งแต่ปลายปี 2565 ได้แก่ โรงงานผลิตเซลล์เอ็นไทป์ 8 กิกะวัตต์ในเมืองซูเฉียน โรงงานผลิตโมดูลชนิดเอ็นไทป์ 10 กิกะวัตต์ในเมืองฉางโจว และโรงงานผลิตโมดูลเอ็นไทป์ 10 กิกะวัตต์ในเมืองหวายอัน ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซู ทำให้ยิ่งมั่นใจได้ว่า การจัดส่งโมดูลเอ็นไทป์ออกจากสายการผลิตของทรินา โซลาร์ จะเป็นไปอย่างราบรื่นไร้กังวล
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ทรินา โซลาร์ ได้ใช้แนวปฏิบัติด้านคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การดำเนินงาน ห่วงโซ่คุณค่า และการจัดการผลิตภัณฑ์ ซึ่งที่นิคมอุตสาหกรรมในชิงไห่นั้น ทรินา โซลาร์ จะรวมจุดแข็งทางด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเข้ากับทรัพยากรของชิงไห่ เพื่อสร้างระบบพลังงานที่เสถียรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทรินา โซลาร์ ยึดมั่นในพันธกิจ "พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับทุกคน" และมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะ โดยไม่เพียงมุ่งเน้นการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังแสวงหาพันธมิตรจากทั่วโลก เพื่อดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมห่วงโซ่คุณค่าที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และสร้างระบบนิเวศสีเขียว