นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) เปิดเผย ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 433.3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกำไรสุทธิรายไตรมาสที่สูงสุด คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 44.1% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,249.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 14.8% จากการเดินหน้าขยายพอร์ตบริหารหนี้ โดยรายได้ที่ทำสัญญากับลูกค้า รายได้ดอกเบี้ยและกำไรจากเงินให้สินเชื่อการซื้อลูกหนี้ และรายได้รายรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้น
พร้อมกับการบริหารการจัดเก็บพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพที่ดีเยี่ยม ทำให้บริษัทฯ มียอดจัดเก็บกระแสเงินสดอยู่ที่ 1,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นสถิติการเก็บกระแสเงินสดจากกพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพที่สูงที่สุด
ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 66 มีกำไรสุทธิ 1,004.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.4% คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 41.8% โดยมียอดจัดเก็บกระแสเงินสดอยู่ที่ 2,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้า JK AMC ที่เติบโตสูงขึ้น
โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพรวม 4,126 ล้านบาท สนับสนุนให้ JMT มีพอร์ตบริหารหนี้ด้อยคุณภาพรวมอยู่ที่ 468,530 ล้านบาท เป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกัน และมั่นใจครึ่งปีหลังผลงานยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีโอกาสทางการตลาดในการลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหาร จากการได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรสถาบันการเงิน ด้วยคุณภาพหนี้และราคาที่สมเหตุผล
ขณะที่การจัดเก็บกระแสเงินสด ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันบริษัทได้บริหารจัดการการจัดเก็บหนี้โดยคำนึงถึงความสามารถในการจ่ายคืนหนี้ของลูกค้า รวมทั้ง ในปัจจุบันบริษัทได้นำเสนอช่องทางการชำระที่สะดวกมากขึ้น นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) (NCB) เพื่อสร้างความยั่งยืนของเศรษฐกิจในระยะยาว
อย่างไรก็ดี เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผล จากผลดำเนิงานงวดวันที่ 1 ม.ค. - 30 มิ.ย.66 ในอัตรา 0.34 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) วันที่ 24 ส.ค.66 กำหนดจ่าย วันที่ 8 ก.ย. 66
ที่มา: ไออาร์ พลัส