'บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น' หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย รายงานผลงานไตรมาส 2/2566 ทำรายได้ 595.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% และมีกำไรสุทธิ 82.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% ดันผลงานงวด 1H/2566 รายได้ 1,161.03ล้านบาท และกำไรสุทธิ 168.62 ล้านบาท หลังยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30.92% พร้อมเติบโตจากการขยายสาขาใหม่ แย้มเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 13 สาขาในปีนี้ มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมาย
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทยเปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 595.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 429.32 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิทำได้ 82.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 58.71 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวเป็นผลจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในงวดครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 30.92% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ รวมถึงบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สินค้าที่พัฒนาร่วมกับศิลปินนักวาดการ์ตูนคนไทย และการเพิ่มหมวดสินค้าใหม่ เช่น หมวด Pet accessory ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี 2) การขยายสาขา โดยบริษัทฯ เปิดสาขาใหม่ของร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi ในช่วงครึ่งปีแรกทั้งสิ้น 7 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขารวมทั้งหมด 114 สาขา (ณ สิ้นไตรมาส 2/2566) โดยแบ่งเป็นค้าปลีก 110 สาขา และค้าส่ง 4 สาขา ครอบคลุม 45 จังหวัด รวมถึงยังมี Seasonal ใหญ่ๆอย่าง Back to School ที่กลับมาครึกครื้นอีกครั้งหลังทุกโรงเรียนเปิดเรียนตามปกติแล้ว ยิ่งส่งผลให้ยอดขายสาขาเดิมเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,161.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 793.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทำได้ 168.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 87.61 ล้านบาท โดยปัจจุบัน มีรายได้จากธุรกิจค้าปลีก 955.60 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 82.7% รายได้ธุรกิจค้าส่ง 192.26 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 16.7% และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ 7.11 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.6% อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้ของธุรกิจค้าส่งที่เพิ่มขึ้น มาจากยอดการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยมักเลือกซื้อของฝากกลับไปยังประเทศตนเอง โดยเฉพาะสาขาค้าส่งประตูน้ำ และ Platinum ประกอบกับมีการขยายพื้นที่สาขาสำเพ็งในปี 2565 และการเพิ่มสาขาThe OK Station ที่เป็นธุรกิจค้าส่งในไตรมาส 2/2566 ยิ่งทำให้ยอดขายเติบโตได้มาก นอกจากนี้ ยอดขายจากช่องทางออนไลน์ยังเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์อีก 1 ช่องทางได้แก่ Tik Tok Shop จากเดิมที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพียง 2 ช่องทางคือ Shopee และ Lazada
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตมากกว่าในครึ่งปีแรก ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยการเติบโตจะมาจาก 1.) การเปิดสาขาใหม่อีก 13 สาขา 2.) การเปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ภายใต้ชื่อ Garlic เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบสินค้าแนว Chic & Cool ที่แตกต่างออกไปจากสไตล์สินค้าโมชิ โมชิ เดิม 3.) การออก Product Category ใหม่ๆ เช่น Pet Accessories 4.) การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงเทศกาลวันหยุด 5.) การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตามเทรนด์ทันสมัยเข้ามาเพิ่มอีกกว่า 4,000 SKUs ในช่วงที่เหลือของปี 2566 และ 6.) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โปรโมชั่นประจำเดือนเละตามเทศกาลต่างๆ
"เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการในครึ่งปีแรก และแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง เรามั่นใจว่าการเติบโตของรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม เรายังติดตามปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมได้รับผลกระทบในครึ่งปีหลัง ซึ่งจะประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและปรับเป้าหมายตามความเหมาะสมต่อไป" นายสง่า กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย