นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบแบบ ภายใต้คอนเซ็ปต์การพัฒนาโครงการแบบหมุนเร็ว (Quick Turnover) ก่อสร้างเร็ว -ขายเร็ว - ส่งมอบเร็ว และความคุ้มค่า ( Premium Economy) ในรูปแบบแนวคิด "Best Smart Living" เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 504.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.29% หรือเพิ่มขึ้น 208.09 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน (YoY) ที่มีรายได้ 296.03 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 47.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.49% หรือเพิ่มขึ้น 23.33 ล้านบาท เมื่อเทียบ YoY ที่มีกำไรสุทธิ 24.17 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯมีอัตรากำไรสุทธิ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 9.43% เมื่อเทียบYoY ที่มีอัตรากำไรสุทธิ 8.17% ขณะที่ไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวมที่ 289.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.29% จากงวดเดียวของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 23.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้จากการเติบโตดังกล่าว ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดปี 2566 (ม.ค.- มิ.ย.66) ในอัตรา 0.20 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 102 ล้านบาท บาท โดยกำหนดวันรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 24 สิงหาคม 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 23 สิงหาคม 2566 เพื่อดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 6 กันยายน 2566 ซึ่งถือว่าเป็นการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ
"สาเหตุที่ผลการดำเนินงานในงวด6 เดือนแรกของปี2566 เติบโตขึ้น เป็นผลจากรายได้การโครงการเพื่อขายและที่ดิน จำนวน 503.23 ล้านบาท เติบโต 70.60 % หรือ 208.26 ล้านบาท จาก 294.97 ล้านบาท ของช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายโครงการทุกประเภทได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม ซึ่งรับรู้รายได้จาก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ ซิตี้ (นิคมพัฒนา - ระยอง), โครงการสิวารมณ์ แกรนด์ (สุขุมวิท - บางปู), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส (อัสสัมชัญ-ศรีราชา), โครงการสิวารมณ์ เนเจอร์พลัส 2 (สุขุมวิท - บางปู) และโครงการ สิวารมณ์ วิลเลจ (สุขุมวิท-บางปู58) และจากการขายที่ดินรอการพัฒนา จังหวัดภูเก็ต แต่ในไตรมาส 2/2565 มีการรับรู้รายได้จำนวน 4 โครงการ"
อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการเปิดโครงการในช่วงที่เหลือของปีนี้ นายรณฤทธิ์ กล่าวว่า แผนกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง 2566 บริษัทฯเตรียมเปิด 3 โครงการ มูลค่ารวม 1,619 ล้านบาท ได้แก่ โครงการสิวารมณ์ วิลเลจ (วงแหวน-ชัยพฤกษ์) มูลค่าโครงการ 691 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เปิดดำเนินการแล้วในช่วงต้นส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนอีก2 โครงการที่เหลือ จะเปิดตัวช่วงไตรมาส4/2566 นี้ คือโครงการ สิวารมณ์ ปาร์ค (วงแหวน-ประชาอุทิศ 76) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 528 ล้านบาท และโครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บางแค-สาทร) โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท โดยทั้ง 3 โครงการดังกล่าวจะเริ่มทยอยรับรู้ได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังทันที และมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า ดังนั้นบริษัทฯจึงมองว่า จากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดสู่ระดับ High Growth ตามเป้าหมายที่บริษัทฯวางไว้ เนื่องจากหากพิจารณากำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี2566 แตะที่ระดับ 47.50 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกำไรสุทธิ ปี2565 ที่ระดับ 58.24 ล้านบาท ดังนั้นจึงมองว่าจากผลการดำเนินงานในปี2566 จะโดดเด่นจนสามารถทุบสถิติใหม่ All-time High ไว้อย่างแน่นอน
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์