OTO งบวูบ 128 ลบ. ขาดทุนจากการลงทุนระยะสั้น กระทบงบ Q2/2566 บอร์ดเตรียมปรับนโยบายลงทุน

พุธ ๑๖ สิงหาคม ๒๐๒๓ ๑๑:๓๐
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO นำโดยนายจิรายุ เชื้อแย้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการบริหาร ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 2/2566 โดยงวดสามเดือนกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม (ไม่รวมรายได้อื่น) จำนวน 137.1 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และลดลง 5.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีขาดทุนสุทธิ 128.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 223% ซึ่งเป็นผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท 123.2 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากกำไรขั้นต้นที่ลดลง และการขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนจำนวน 117.4 ล้านบาท รวมถึงค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาพบว่าขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 155.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 570.3 เป็นผลมาจากการขาดทุนจากเงินลงทุนในตราสารทุนเป็นหลัก

นายจิรายุ เชื้อแย้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานคณะกรรมการบริหาร OTO กล่าวว่า "ผลขาดทุนในไตรมาส 2/2566 เป็นผลมาจากการลดลงของราคาหุ้นในพอร์ตลงทุนระยะสั้นที่ลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นหลัก ในขณะที่ผลประกอบการของธุรกิจ call center ยังสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมียอดเงินสด ณ วันสิ้นงวดอยู่ที่ 693 ล้านบาท และปราศจากหนี้สินทางการเงิน

ด้านแผนการดำเนินงานต่อจากนี้ บริษัทฯ จะยังคงแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจต่อไป และมุ่งเติบโตธุรกิจ call center โดยจะมีการขยายไปทางด้าน Outbound Call มากขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของการให้บริการ Call Center"

ทั้งนี้ปัจจุบันรายได้หลักของ OTO มาจากการจัดการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ หรือ Call Center โดยคิดเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ 1.)การให้บริการบริหารจัดการศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบ (Fully Outsourced Contact CenterManagementService) มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 71.74% 2.)การให้บริการจัดหาลูกค้าสัมพันธ์ (CustomerService RepresentativeOutsourced) มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 22.40% 3.)การให้บริการระบบศูนย์บริการให้ข้อมูล และอุปกรณ์ (Contact Center Facility Outsourced) มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 4.13% และ 4.)การให้บริการบำรุงรักษาศูนย์ให้บริการข้อมูล (MaintenanceService) มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 1.73%

ที่มา: บางกอก ออทัม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย