PROS ส่งซิก H2/66 ฟื้น เหตุลูกค้าเก่าส่งงาน จัดการต้นทุนได้ดี ลุ้นคว้าประมูลงานใหม่เสริมแกร่งรายได้ ตุน Backlog 1,600 ลบ.

พฤหัส ๑๗ สิงหาคม ๒๐๒๓ ๑๔:๕๓
"บมจ.พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง หรือ PROS" ชี้แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเริ่มปรับตัวดีขึ้น จากงานติดตั้งระบบวิศวกรรมที่ได้รับเพิ่มเข้ามาในช่วงครึ่งแรกของปี พร้อมลุยประมูลงานเจาะลูกค้าใหม่ ดันมูลค่างานคงค้างในมือรวม 1,600 ล้านบาท ชี้ลูกค้าเดิมเชื่อมั่นคุณภาพ ฝีมือการทำงาน ส่งงานให้ต่อเนื่อง พร้อมกับรุกงานลูกค้าโครงการใหม่ๆ ประเมินไตรมาส 3/2566 มีลุ้นได้งานบิ๊กเนมเพิ่ม ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในผู้นำงานระบบวิศวกรรม "พงศ์เทพ รัตนแสงสรวง" ซีอีโอ ชี้ธุรกิจพร้อมเดินหน้าต่อเนื่องท่ามกลางความท้าทาย ควบคู่กับการบริหารต้นทุนวัตถุดิบ ต้นทุนค่าก่อสร้าง ปรับโครงสร้างการบริหารงานโครงการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อพลิกกลับมาปิดงบสวยในครึ่งหลังปี 2566

นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารเปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 เชื่อว่ามีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการที่ได้รับเพิ่มเติมด้านงานติดตั้งระบบวิศวกรรมซึ่งบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญ ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม โครงการห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาเก็ต โครงการติดตั้งโซล่าร์รูฟ เป็นต้น โดยล่าสุดได้รับงาน โครงการคอนโด รัชดา12, โครงการติดตั้งโซล่าร์รูฟของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช, โครงการโลตัส สุขุมวิท พัทยา และโครงการอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง 2566

ทั้งนี้ PROS ยังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่เชื่อมั่นในประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และคุณภาพงาน ให้โอกาสได้รับเลือกเป็นผู้รับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรม เช่น กลุ่ม HOMEPRO, LOTUS, NEO, SMC เป็นต้น ล่าสุดได้เข้าประมูลงานติดตั้งระบบวิศวกรรมโครงการก่อสร้างโรงงานย่านรังสิต-ลำลูกกา มูลค่าราว 400 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 12-14 เดือน คาดจะรู้ผลเร็วๆนี้ ซึ่งหากบริษัทได้งานคาดเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ และรับรู้รายได้ชัดเจนในช่วงไตรมาส 1-ไตรมาส 2/2567 และยังมีงานอาคารคลังสินค้า ที่เสนอราคาผ่านบริษัท สยาม มัลติ คอน จำกัด (SMC) อีกด้วย

นอกจากนี้บริษัทมีแผนเข้าไปประมูลงานลูกค้ารายใหม่ในโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ปัจจุบันอยู่ในช่วงชี้แจงแบบ ซึ่งเป็นพื้นที่สำนักงานของเจ้าของโครงการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลงานที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อเจ้าของโครงการซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และจะทำให้มีโอกาสได้รับงานอีกหลายโครงการในอนาคต โดยเฉพาะโครงการในพื้นที่ EEC โดยข้อได้เปรียบของ PROS คือมีบริษัท พรอสเพอร์ไทธรรม์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือรองรับในพื้นที่เนื่องจากตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ใกล้อู่ตะเภา 20 กม. ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเจาะตลาดธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ตามความต้องการ Data center ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการใช้เทคโนโลยี Cloud , AI และ Big Data ที่เพิ่มมากขึ้นตามเทรนด์เปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ความเป็นดิจิทัล และการมาของเทคโนโลยี Metaverse โดยบริษัทฯอยู่ในช่วงของการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่อีกหลายราย

"ไตรมาส 2/66 การรับรู้รายได้อาจจะไม่ได้มีเข้ามาตามคาด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของภาคการก่อสร้าง และโครงการต่างๆที่ไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯต้องแบกต้นทุนวัตถุดิบและแรงงานในการก่อสร้าง บริษัทฯได้เร่งปรับรูปแบบการบริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มข้น รวมถึงการตั้งสำรองขาดทุนทั้งจำนวนในไตรมาส 2/2566 แต่ในครึ่งปีหลังมองว่าภาพรวมของภาคการก่อสร้างและการลงทุนจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และความเชื่อมั่นในการลงทุน การใช้จ่ายงบประมาณประจำปีกำลังจะกลับมา โดยบริษัทฯได้รับงานใหม่ที่มีคุณภาพ มีกำไร และลักษณะโครงการที่สอดคล้องกับการบริหารจัดการความเสี่ยง ปัจจุบัน PROS มีงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวมประมาณ 1,600 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 44% พร้อมเดินหน้ารับงานรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร และเจาะตลาดลูกค้าใหม่ๆเสริมพอร์ต สอดรับกับการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้างทั้งจากภาครัฐและเอกชน ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกำลังซื้อและภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวภายในประเทศ ภายหลังจากการฟอร์มทีมรัฐบาลสำเร็จ" นายพงศ์เทพกล่าว

ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 130.19 ล้านบาท ลดลง 48.16% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 198.39 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากต้นทุนค่าก่อสร้างที่สูงขึ้น จากงานที่ได้รับมาช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด สำหรับกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2566 ชู BIG 4 GROWTH STRATEGY ได้แก่ 1) ธุรกิจก่อสร้าง (Construction Business) 2) ธุรกิจก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย ระบบจำหน่ายไฟฟ้า และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (High Voltage Substation & Renewable Energy Business) 3) ธุรกิจด้านเทคโนโลยี และธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ระบบวิศวกรรม (New Technology & Trading Business) และ 4) ธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare Business)

ที่มา: IR PLUS

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO