เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งฯ (AEC) ร่วมต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรีฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ

ศุกร์ ๑๘ สิงหาคม ๒๐๒๓ ๐๙:๕๖
เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งฯ (AEC) บริษัทในกลุ่ม STI ให้การต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรีฯ เข้าเยี่ยมชม ตรวจความคืบหน้าของโครงการ ก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ บริเวณงานอุโมงค์รถไฟผาเสด็จ ช่วงมาบกะเบา - หินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ พร้อมด้วยผู้ว่าการรถไฟ เพื่อติดตามการดำเนินการและเตรียมพร้อมรองรับเปิดใช้งานในอนาคต

นายไพบูลย์ โชคไพรสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมชั้นนำของประเทศ บริษัทในกลุ่ม บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) (STI) ต้อนรับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ร่วมตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าโครงข่ายคมนาคมระบบรางของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ บริเวณงานอุโมงค์รถไฟผาเสด็จ ช่วงมาบกะเบา - หินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ในฐานะที่ปรึกษาโครงการก่อสร้าง โดยมี นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมให้การต้อนรับและนำเสนอรายละเอียดความก้าวหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งงานอุโมงค์รถไฟของโครงการฯ มีจำนวน 3 อุโมงค์ ซึ่งหนึ่งใน 3 อุโมงค์ ตั้งอยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบา สถานีผาเสด็จ และสถานีหินลับ จ.สระบุรี มีความยาว 5.85 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นอุโมงค์คู่ รางเดี่ยว เป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีการออกแบบที่มีระบบความปลอดภัยค่อนข้างสูง ซึ่งเดินหน้าแล้ว 98% สำหรับอีก 2 อุโมงค์ ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อย

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯ - หนองคาย และเชื่อมต่อกับสายตะวันออก ท่าเรือแหลมฉบัง - แก่งคอย ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจ การค้า การขนส่ง และโลจิสติกส์ เชื่อมโยงระหว่างประตูการค้าของไทยทั้งกรุงเทพฯ และท่าเรือแหลมฉบัง ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือเชื่อมโยงสู่ สปป.ลาว และจีนตอนใต้ ทั้งนี้ หากโครงการฯ แล้วเสร็จจะเป็นการช่วยเสริมประสิทธิภาพขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว ขบวนรถโดยสารจะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เฉลี่ย 100-120 กม./ชม. จากเดิม 50 กม./ชม. ขบวนรถสินค้าจะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้เฉลี่ย 60 กม./ชม. จากเดิม 29 กม./ชม. ทำให้ลดระยะเวลาการเดินทาง มีความตรงต่อเวลาของขบวนรถ ลดต้นทุนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ