นางสาวสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 16.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,004.42% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.79 ล้านบาท และมีรายได้จากการให้บริการ จำนวน 117.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.54% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 67.45 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 34.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 15.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 22% ซึ่งกำไรขั้นต้นจากการให้บริการเพิ่มขึ้นถึง 125.78% สาเหตุหลักมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งรายได้จากการให้บริการผลิตภาพนิ่ง รายได้จากการให้บริการภาพเคลื่อนไหว และรายได้จากการให้บริการอื่นๆ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายได้จากการให้บริการ จำนวน 117 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้น 73.54% ดังกล่าว มาจากแนวโน้มของลูกค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นในการสื่อสารประชาสัมพันธ์กับผู้บริโภค ประกอบกับแนวโน้มการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รายได้หลักของบริษัทฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ยกเว้นรายได้จากการให้เช่าสตูดิโอ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนารูปแบบทางการตลาด และการขยายฐานลูกค้าต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนใน บริษัท ไวท์ ไลท์ สตูดิโอ จำกัด จำนวน 21,428 หุ้น คิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระเต็มมูลค่าแล้ว โดยมีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 11,935,396 บาท พร้อมกับให้ความช่วยเหลือทางการเงินโดยการให้กู้ยืมแบบหมุนเวียนและทยอยเบิกใช้ จำนวน 3,064,604 บาท
เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจของ บริษัท ไวท์ ไลท์ สตูดิโอ ที่ให้บริการแก้ไขและควบคุมสีของภาพเคลื่อนไหวและงานวีดีทัศน์ เพื่อสร้างอารมณ์และทิศทางที่ชัดเจนให้กับงานต่างๆ มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสร้างรายได้และผลกำไรที่แน่นอนให้แก่บริษัทฯ ในระยะยาว และส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยเช่นกัน
"สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3/2566 ตลอดจนไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้มีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งรายได้จากการให้บริการผลิตและตบแต่งภาพเคลื่อนไหว, รายได้จากการวางแผนกลยุทธ์และผลิตสื่อดิจิทัล และรายได้จากการให้บริการผลิตและตบแต่งภาพนิ่ง รวมทั้งรายได้ที่มาจากการควบรวมกิจการ ZEALOTS และ UMC ที่เสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมา และการเข้าถือหุ้นใน บริษัท ไวท์ ไลท์ สตูดิโอ รวมถึงการที่บริษัทฯ มีกำลังการผลิตที่พร้อมสนับสนุนที่กลับมาของงานได้อย่างไม่มีข้อจำกัด รองรับการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ดี จะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานโดยรวมในปี 2566 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ" นางสาวสุวรรณี กล่าวในที่สุด
ที่มา: ไออาร์ พลัส