เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและร่วมกันสร้างยุคสมัยใหม่ของความเป็นหนึ่งเดียวกันและความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม คุณชวลิต เฟรเดอริก เฉา (Mr Chavalit Frederick Tsao) ผู้นำธุรกิจรุ่นที่ 4 และผู้ก่อตั้งสถาบันออกเทฟ (Octave Institute) และประธานบริษัท ไอเอ็มซี แพน เอเชีย อลิอันซ์ กรุ๊ป (IMC Pan Asia Alliance Group หรือ IMCPAA) ได้จับมือกับมูลนิธิฮาโลเจน สิงคโปร์ (Halogen Foundation Singapore) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตให้กับเยาวชนในสิงคโปร์ ทั้งนี้ ออกเทฟได้มอบเงินบริจาคเพื่อแสดงถึงการมีส่วนร่วมจำนวน 250,000 ดอลลาร์แก่ฮาโลเจนเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่งานราตรีสโมสรฮาโลเจน ซึ่งฮาโลเจนเป็นเจ้าภาพ และได้รับเกียรติจากคุณธาร์มาน ชานมูการัตนัม (Mr Tharman Shanmugaratnam) แขกผู้มีเกียรติของงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ ออกเทฟยังเป็นผู้สนับสนุนรายปัจจุบันของงานในครั้งนี้อีกด้วย นับเป็นก้าวแรกของความสัมพันธ์ระหว่างออกเทฟกับฮาโลเจนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนของเราเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติและธรรมชาติ และความเจริญรุ่งเรืองแห่งชีวิต ผ่านความร่วมมือระหว่างสถาบันออกเทฟและมูลนิธิฮาโลเจน
คุณเฉาได้ก่อตั้งออกเทฟขึ้นเป็นโรงเรียนแห่งชีวิตและการจัดการที่มุ่งเน้นการปฏิรูปธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นผู้นำ ออกเทฟเป็นผู้นำแนวคิดริเริ่มด้านการพัฒนาองค์กรและนำเสนอแนวทางความเป็นผู้นำรูปแบบใหม่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและความยั่งยืนบนพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกเพื่อปรับเปลี่ยนจริยธรรม ในฐานะผู้นำทางธุรกิจหัวก้าวหน้าซึ่งเชื่อมั่นในศักยภาพของสิงคโปร์อย่างแรงกล้า คุณเฉามุ่งมั่นแสวงหาโอกาสเพื่อร่วมสร้างอนาคตผ่านความร่วมมือกับองค์กรและสถาบันต่าง ๆ ในท้องถิ่น คุณเฉามอบเงินบริจาคแก่ฮาโลเจนในครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสในการเป็นพันธมิตรและสร้างความร่วมมือร่วมกับฮาโลเจนได้มากขึ้น เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและส่งเสริมเยาวชนบนเส้นทางแห่งการศึกษานอกเหนือไปจากโรงเรียน
"จิตสำนึกของทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากโลกทั้งใบกำลังตื่นตัวว่าเราจำเป็นต้องสามัคคีกันผ่านความร่วมมือและการเป็นพันธมิตร อนาคตในภายภาคหน้าของเราจะแตกต่างจากยุคอุตสาหกรรมที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ในฐานะมนุษยชาติคนหนึ่ง เราคือผู้กุมชะตาอนาคตของเรา เราทุกคนมีสิ่งที่จำเป็นอยู่ภายในอยู่แล้วในการร่วมกันสร้างยุคสมัยใหม่นี้ เราเพียงแค่ต้องเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกในการใช้ชีวิตแล้วมองหาโลกทัศน์ร่วมเพื่อปูทางไปสู่แนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เรามีร่วมกัน เมื่อเยาวชนตื่นรู้ถึงเป้าหมายชีวิตของตนและได้รับโอกาสในการทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ เขาย่อมสามารถเจริญรุ่งเรืองในชีวิตได้ เราจึงร่วมกันสร้างระบบการศึกษาสำหรับคนทุกรุ่นที่อยู่นอกเหนือไปจากโรงเรียนเพื่อสร้างอนาคตและกำหนดชะตากรรมของมนุษยชาติร่วมกัน" คุณเฉากล่าว
เผยการมองโลกในมุมใหม่ในหนังสือเล่มล่าสุด "One Choice, One World"
นอกจากนี้ คุณเฉายังได้เปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ล่าสุดของตัวเอง "One Choice, One World: The Rise of The Well-Being and Happiness Economy" ภายในงานดังกล่าว โดยผลงานที่แหวกขนบและท้าทายความคิดชิ้นนี้ คุณเฉาได้นำเสนอวิสัยทัศน์ที่กล้าหาญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกใหม่ของชีวิตในยุคนี้ ซึ่งว่าด้วยความเป็นอยู่ที่ดีและความสุข โดยมองมนุษยชาติเป็นส่วนหนึ่งของระบบองค์รวมของทุกชีวิต
คุณเฉาสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ให้ก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าในการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งสอดรับกับข้อเรียกร้องของสหประชาชาติในการสร้างระบบเศรษฐกิจตลาดเสรีรูปแบบใหม่ และเปลี่ยนจากการวัดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มาเป็นการวัดความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH) การปฏิรูปธุรกิจจึงมีบทบาทสำคัญเพื่อนำธรรมชาติของจริยธรรมทางธุรกิจออกมาเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรีที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน
ในผลงานชิ้นล่าสุดนี้ คุณเฉาได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือและร่วมกันสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้น เขาหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เสวนากับเหล่าผู้นำและร่วมหารือเพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยใหม่
คุณเฉาเป็นผู้นำธุรกิจรุ่นที่ 4 ของไอเอ็มซี (IMC) ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในฐานะผู้ประกอบการและด้วยประสบการณ์ ข้อมูลเชิงลึก และความรู้ที่หลากหลายทั้งในวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกอันเป็นแหล่งที่มาของโลกทัศน์ของเขา คุณเฉาประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือแบบดั้งเดิมของครอบครัวไปสู่การเป็นเครือบริษัทข้ามชาติที่ส่งเสริมโลกาภิวัตน์และการพัฒนาอุตสาหกรรมในเอเชีย ตอนนี้ เขากำลังนำพาธุรกิจของตนเองไปสู่อีกระดับ โดยการกำหนดนิยามใหม่ให้กับความยั่งยืนและความสุจริตของธุรกิจ เพื่อสร้างผลกระทบในการสร้างยุคสมัยใหม่แห่งความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เขาจึงได้ก่อตั้งสถาบันออกเทฟขึ้นในฐานะศูนย์การเป็นผู้นำควอนตัมที่มุ่งเน้นการปฏิรูปธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นผู้นำ
คุณเฉากล่าวว่า "โลกในตอนนี้อยู่ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดจากโลกาภิวัตน์และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เราอยู่ในช่วงรอยต่อที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก เพื่อเป็นการเผชิญหน้ากับความท้าทายระดับโลก เราจึงต้องสร้างโลกทัศน์ร่วมกันบนพื้นฐานของการยอมรับว่ามนุษยชาติเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศสำหรับทุกชีวิตบนโลก ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่เราจะต้องร่วมกันสร้างยุคใหม่แห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมีความเป็นอยู่ที่ดีแบบองค์รวม เราแต่ละคนล้วนมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์นี้ตามที่ผมได้กล่าวในงานเขียนใหม่ในชื่อ "One Choice, One World" ด้วยการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาตะวันออกและวิทยาศาสตร์ตะวันตก ผมเชื่อว่าเราจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกร่วมกันได้ อนาคตอยู่ในมือเรา!"
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือได้ทาง https://chavalittsao.com/one-choice-one-world
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2188565/Launch_of_One_Choice_One_World.jpg