ความร่วมมือกับเอสซีจีถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกในไทยที่นำโซลูชันคิวบ์ (Cube Solution) ของทูย่ามาใช้ในแวดวงสมาร์ทโฮม โดยเปิดโอกาสให้เอสซีจีสร้างระบบการจัดการ IoT ในบ้านและแพลตฟอร์ม IoT ส่วนตัวได้ เพื่อจัดการอุปกรณ์ต่าง ๆ ในแบรนด์สมาร์ทโฮมของเอสซีจี ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันสำรวจโอกาสทางธุรกิจที่ชาญฉลาดเพิ่มเติม เช่น ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อัจฉริยะของเอสซีจี ยกระดับบริการ IoT ด้วยโซลูชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบบูรณาการ และผลักดันการใช้เทคโนโลยีในภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายยังตั้งใจที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในอนาคต เพื่อยกระดับการนำ IoT, AI และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่น ๆ อีกมากมายมาใช้ในด้านระบบแสงไฟอัจฉริยะ ชุมชนอัจฉริยะ และเมืองอัจฉริยะ เป็นต้น
เอสซีจีมีบทบาทสำคัญในการยกระดับโครงการริเริ่มในภาคโครงสร้างพื้นฐานของไทยให้ก้าวหน้ามากว่าศตวรรษ โดยมีบริษัทในเครือกว่า 300 แห่ง เอสซีจีอยู่ในอันดับที่ 878 ในการจัดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2566 ฟอร์บส์ โกลบอล 2000 (Forbes Global 2000) และมีธุรกิจหลักแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ซีเมนต์-วัสดุก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ เอสซีจีทำธุรกิจในประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย และเมียนมาร์
ธุรกิจของเอสซีจีครอบคลุมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยกว่า 90% ทั้งยังได้สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวและเชื่อถือได้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอสซีจีมีรากฐานหยั่งรากลึกในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และค้นพบว่าเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง IoT เพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมได้ จึงได้สำรวจและเปิดตัวธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรและธุรกิจสร้างแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วยขับเคลื่อนและยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทยผ่านผลิตภัณฑ์ ระบบ และบริการอัจฉริยะที่เป็นแบรนด์ของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ เอสซีจีจึงตัดสินใจร่วมมือกับทูย่า เพื่อใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคธุรกิจนี้ และร่วมกันพัฒนาภาคส่วนอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะขึ้นมาใหม่ในประเทศไทย โดยใช้ทรัพยากรช่องทางและความเชี่ยวชาญในตลาดท้องถิ่นของเอสซีจี ตลอดจนจุดแข็งของทูย่าในเรื่องเทคโนโลยีหลัก โซลูชัน และประสบการณ์ในการให้บริการทั่วโลก
โซลูชันคิวบ์เปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอสังหาฯ
ทูย่าจะให้การสนับสนุนธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรและธุรกิจแบรนด์อสังหาฯ ของเอสซีจีอย่างรอบด้าน ครอบคลุม 3 เสาหลัก ได้แก่ แพลตฟอร์ม IoT ส่วนตัว อีโคซิสเต็มฮาร์ดแวร์ และการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อช่วยให้เอสซีจีจัดหาโซลูชัน IoT แก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมอสังหาฯ ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น และร่วมให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและบริการ รองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาดของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
ทูย่าจะสร้างแพลตฟอร์ม IoT ส่วนตัวให้กับเอสซีจีโดยใช้โซลูชันคิวบ์ มาพร้อมฟังก์ชันพิเศษ ความเสถียรของระบบสูง และความเป็นอิสระของข้อมูลที่สมบูรณ์ โซลูชันคิวบ์ของทูย่าแบ่งออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ บริการโครงสร้างพื้นฐาน บริการแพลตฟอร์มแบบคลาวด์เนทีฟ แกนหลัก IoT การขยายศักยภาพของ IoT ไปจนถึงแพลตฟอร์มพัฒนาและบูรณาการแอปพลิเคชัน โดยความสามารถในการเลือกส่วนประกอบการทำงานมากกว่า 40 รายการที่รวมอยู่ในทั้ง 5 ส่วนตามความต้องการในการพัฒนาธุรกิจนั้น จะช่วยให้เอสซีจีใช้แพลตฟอร์มส่วนตัวได้อย่างรวดเร็วและประหยัด ทำให้นำเสนอฟังก์ชันการทำงานในแพลตฟอร์มของตนเองได้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
ในขณะเดียวกัน ทูย่าจะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับเอสซีจีโดยใช้โซลูชันคิวบ์ ซึ่งรวมถึงการช่วยเอสซีจีในการยกระดับแบรนด์สมาร์ทโฮม พัฒนาระบบการจัดการบ้านอัจฉริยะ และสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าในภาคอสังหาริมทรัพย์ เปิดโอกาสให้เอสซีจีใช้ฟังก์ชันที่มีมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย เช่น การเชื่อมต่อและการจัดการอุปกรณ์ การจัดการผู้ใช้ รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น และดำเนินการพัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการแอปพลิเคชัน IoT ที่หลากหลายได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของตนเองหรือลูกค้าในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ พร้อมสนับสนุนการทำงานในส่วนต่าง ๆ สำหรับธุรกิจและสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเอสซีจีจะให้ข้อมูลวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนอัจฉริยะในแบรนด์ของตนเองได้ นอกจากนี้ยังนำเสนอความสามารถในการจัดการอุปกรณ์ได้ด้วย เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดการทรัพย์สินต่าง ๆ ในนิคมอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ ชุมชน และโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ โดยใช้แพลตฟอร์ม IoT ของเอสซีจี
โซลูชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบบูรณาการของทูย่า ช่วยขยายรูปแบบธุรกิจของเอสซีจี
เมื่อสร้างแพลตฟอร์ม IoT ส่วนตัวเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทูย่าจะร่วมมือกับเอสซีจีในการพัฒนาโซลูชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อสำรวจโอกาสในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะต่อไป
สำหรับฮาร์ดแวร์นั้น เอดจ์เกตเวย์ของเอสซีจีจะถูกรวมเข้ากับอีโคซิสเต็ม IoT ของทูย่า ซึ่งจะเข้ามาเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์เอสซีจีที่ทำงานร่วมกันได้อย่างมาก และขยายขอบเขตของสินค้าที่มีจำหน่ายภายใต้แบรนด์สมาร์ทโฮมของเอสซีจี โดยทูย่าจะทำงานร่วมกับเอสซีจี เพื่อพัฒนาสถานการณ์การโต้ตอบที่ชาญฉลาดมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และพัฒนารูปแบบการจัดการธุรกิจที่ยืดหยุ่นและปรับขนาดได้ โดยใช้ผลิตภัณฑ์เกือบ 2,700 ประเภท ที่ถือกำเนิดขึ้นจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของทูย่าและเอสซีจี เกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ในการยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประสบความสำเร็จในการประหยัดพลังงานและลดต้นทุน ทูย่าจะทำงานร่วมกับเอสซีจีในการพัฒนาระบบการจัดการพลังงานในอาคารอัจฉริยะ ซึ่งรวมถึงเซ็นเซอร์ซิกบี (Zigbee) เทอร์โมสแตทอัจฉริยะ มิเตอร์ เอดจ์เกตเวย์ และอุปกรณ์อื่น ๆ
ในแง่ของซอฟต์แวร์นั้น แอปที่เอสซีจีพัฒนาขึ้นเองอย่างเอสซีจี สมาร์ท ลิฟวิ่ง (SCG Smart Living) จะเชื่อมต่อกับแอปที่ใช้เทคโนโลยีของทูย่าได้อย่างแนบเนียน ผ่านทูย่า แอป เอสดีเค (Tuya App SDK) ในบริการแพลตฟอร์ม เวอร์ชัน 2.0 (PaaS2.0) ของทูย่า เพื่อให้จัดการและควบคุมแบรนด์ของเอสซีจีได้ ทั้งยังเชื่อมต่อ จัดการ และควบคุมอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีของทูย่าได้ด้วย
เอสซีจีและทูย่ากำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวในภาคพลังงานสะอาดอย่างใกล้ชิด โดยทั้งสองจะร่วมกันขยายโซลูชันคาร์บอนเป็นศูนย์ในด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ โซลูชันการจัดการพลังงานสำหรับครัวเรือน รวมถึงเมืองอัจฉริยะและแอปพลิเคชันเชิงรุกอื่น ๆ เพื่อเดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชาญฉลาด และยั่งยืน เพื่อเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและ ESG และทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อพัฒนารูปแบบความร่วมมือใหม่ ๆ
คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลของเอสซีจี ดิจิทัล กล่าวว่า "เมื่อ IoT, AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ ถือกำเนิดขึ้นมา องค์กรต่าง ๆ ในแต่ละภาคส่วนต่างต้องเร่งเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด เพื่อปรับให้เข้ากับการอัปเกรดเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ทูย่ามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการยกระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โดยยังคงเปิดกว้างและเป็นกลาง ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและประสบการณ์ด้าน IoT ในตลาดโลกจะมีความสำคัญต่อความร่วมมือของเรา ในการพัฒนาโซลูชันแบบครบวงจรที่ตอบสนองความทะเยอทะยานในการพัฒนาของเอสซีจี ในขณะเดียวกันก็เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการพัฒนาในท้องถิ่นด้วย เราจะยังคงให้ความสำคัญกับ 'นวัตกรรม' และ 'การพัฒนาที่ยั่งยืน' ต่อไปในอนาคต และจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทูย่า เพื่อสำรวจโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติมในด้านระบบแสงไฟอัจฉริยะ ชุมชนอัจฉริยะ และเมืองอัจฉริยะ และทำงานร่วมกันเพื่อให้ลูกค้าเติบโตก้าวหน้าได้"
คุณรอสส์ หลัว (Ross Luo) ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของทูย่า สมาร์ท กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่างทูย่ากับเอสซีจีจะทำให้เกิดแรงผลักดันใหม่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทย โดยจะใช้ทรัพยากรช่องทางของเอสซีจีและความได้เปรียบทางเทคโนโลยีและระบบนิเวศของทูย่า เพื่อผนึกกำลังพัฒนาลูกค้าในภาคส่วนอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ ร่วมกันสร้างระบบนิเวศ IoT ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพสูง และขยายผลกระทบของการใช้เทคโนโลยียกระดับอุตสาหกรรม ทูย่าจะยังคงร่วมมือกับเอสซีจีต่อไปในอนาคต เพื่อขยายความครอบคลุมของธุรกิจที่ล้ำหน้านี้ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่าง นำเสนอโซลูชัน IoT ที่ประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพแก่ลูกค้าอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมและอุตสาหกรรมเกิดใหม่ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการควบคุมอัตโนมัติและเปลี่ยนแปลงอย่างแตกต่าง พร้อมส่งเสริมระบบนิเวศ IoT ในท้องถิ่นให้ก้าวหน้าต่อไป"
ทั้งนี้ เอสซีจีและทูย่าจะผนึกกำลังกัน เพื่อสร้างสรรค์ภาคส่วนอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะในประเทศไทย นำเสนอสภาพแวดล้อมแบบใหม่ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และวางรากฐานให้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมมือกันต่อไป และรองรับความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมให้มากขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน