cmg เปิดอาณาจักรแฟชั่นเติบโตแข็งแกร่ง พร้อมรุกธุรกิจนำแบรนด์ชั้นนำทะยานสู่เป้าหมาย 1 หมื่นล้านภายในปี 2566

พฤหัส ๒๔ สิงหาคม ๒๐๒๓ ๑๕:๔๐
เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (cmg) ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายและบริหารแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับโลกกว่า 40 แบรนด์ ในกลุ่มแฟชั่น ความงาม นาฬิกาและสินค้าเทคโนโลยี ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เตรียมอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1,300 ล้านบาท เร่งเครื่องสร้างการเติบโตด้วยการ 'ขยายแบรนด์-ขยายแพลตฟอร์ม' ตั้งเป้าสร้างรายได้เกิน 1 หมื่นล้านบาท สำหรับหมวดแฟชั่นภายในสิ้นปี 2566 พร้อมทุ่มทำการตลาดเชิงรุกแบบเต็มสูบ ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งแฟชั่นรีเทลไทย

นายเอ็ดวิน ยัป ฮอสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (cmg) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ธุรกิจแฟชั่นแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่สำคัญของ cmg ทั้งในกลุ่มเครื่องแต่งกาย รองเท้า เครื่องประดับ และนาฬิกา ที่มีการอัปเดตพอร์ตฟอลิโอและเทรนด์ของแบรนด์แฟชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แบรนด์แฟชั่นเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคและสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าทุกกลุ่มได้ cmg จึงมองเห็นโอกาสที่จะต่อยอดธุรกิจให้เติบโตจากเทรนด์อุตสาหกรรมแฟชั่นที่ในปีนี้ยังคงเป็นเซกเมนต์ที่มีความต้องการสูงของตลาด

"ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจแบรนด์แฟชั่นเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดคิดเป็น 2 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมดของ cmg โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจแบรนด์แฟชั่นพรีเมียม รวมถึงแฟชั่นแนวสตรีทที่เน้นการสวมใส่สบายมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยมาจากพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Z ประกอบกับพฤติกรรมคนไทยซึ่งเป็นผู้บริโภคที่มีความทันสมัยในเรื่องแฟชั่น (fashion-forward customers) มากที่สุดในเอเชีย ดังนั้น cmg จึงมุ่งสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้กับสินค้า เพื่อดึงดูดและตอบสนองความต้องการของลูกค้าจำนวนมากทั้งจากไทยและจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คลั่งไคล้สินค้าแฟชั่น ให้เข้ามาจับจ่ายสินค้าในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น อันจะส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางแฟชั่นที่ได้รับการยอมรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

นางสาวจิตรฤดี พนิตพล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสินค้าแฟชั่นและนาฬิกา บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (cmg) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวเสริมว่า ธุรกิจสินค้าแฟชั่น ถือเป็นธุรกิจหลักที่เป็นกำลังสำคัญของ cmg ด้วยสินค้ามากกว่า 20 แบรนด์ดังระดับโลก ครอบคลุมตั้งแต่ Luxury, Premium และ Mainstream segment จึงถือเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในตลาดนี้ เพราะมี แบรนด์ในทุกกลุ่มเป้าหมายและครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท อาทิ Polo Ralph Lauren, Emporio Armani, Calvin Klein, Guess, Tommy Hilfiger, Casio, MLB, A|X Armani Exchange, G2000, Lee, Wrangler, Jockey , John Henry, FitFlop, Skechers, Crocs และ Hush Puppies

นอกจากความหลากหลายของสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคแล้ว cmg ยังมีจุดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นของแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 1,900 จุด ซึ่งถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ cmg ทำนิวไฮเติบโตมากกว่า 16% ด้วยยอดขายตลอดช่วงเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 (ก่อนโควิด-19) และเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายสูงสุด คือ แบรนด์ในกลุ่มสินค้าพรีเมียม ที่เติบโตพุ่งทะยานมากถึง 131% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 (ก่อนโควิด-19) และเติบโตขึ้น 49% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา

" ความสำเร็จอย่างล้นหลามของธุรกิจสินค้าแฟชั่นของ cmg มาจากการบริหารจัดการ แบรนด์ในพอร์ตฟอลิโออย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความสำคัญกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ในการร่วมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน พร้อมทั้งมุ่งเน้นการคัดสรรแบรนด์ใหม่ๆ มาเสริมในทุกไตรมาส เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตลอดจนการขยายกลุ่มประเภทของสินค้าให้มีความหลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้การเพิ่มช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ cmg เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เช่น การเปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของแต่ละแบรนด์, การสร้างร้านค้าบน Tiktok และการทำ ไลฟ์สตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์มต่างๆ และที่ขาดไม่ได้ คือ การพัฒนาพนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ cmg ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการสร้างวัฒนธรรมการทำงานในองค์กรแบบคนรุ่นใหม่ให้เป็นศูนย์รวมของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อให้องค์กรได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้นำและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" นางสาวจิตรฤดี กล่าว

" ในฐานะที่ cmg คือ ผู้นำตลาดแฟชั่นรีเทลของประเทศไทย เราพร้อมส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้าในทุกช่องทาง และเตรียมรุกแคมเปญการตลาดในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำเข้าแบรนด์ และเทรนด์แฟชั่นต่างๆ ด้วยพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งของ แบรนด์แฟชั่น รวมถึงแบรนด์ความงามและเทคโนโลยี เพื่อตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 แฟชั่นรีเทลที่ครองใจคนไทยอันเป็นที่รักของเรามาอย่างยาวนาน " นายเอ็ดวิน กล่าวสรุป

ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ