ตามแผนการในโรดแมปดังกล่าว บริษัทตั้งเป้าบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 และมีการวางแผนโดยละเอียดสำหรับ 3 เงื่อนเวลาหลัก ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของแอสโทรเนอร์จีในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG)
คุณหวงกล่าวสุนทรพจน์ว่า แอสโทรเนอร์จียึดมั่นในแนวคิด "จากศูนย์ถึงศูนย์" (From Zero to Zero) เป็นเป้าหมายสูงสุดของทุกผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งมั่นสร้างวัฎจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงห่วงโซ่อุปทานและการผลิต เพื่อผลิตโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยฐานการผลิต 8 แห่งของแอสโทรเนอร์จีจะอัปเกรดสู่การผลิตแบบปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์เสร็จสมบูรณ์ในปี 2593
ยิ่งไปกว่านั้น แอสโทรเนอร์จียังยืนหยัดทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่พันธมิตรทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ เพื่อก้าวขึ้นเป็นซัพพลายเออร์โมดูลที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงสุดในโลก
ในระหว่างปี 2565-2593 ซัพพลายเออร์หลักทั้งหมดของแอสโทรเนอร์จีจะต้องผ่านการรับรอง ISO 14001/45001 รวมถึงผ่านการตรวจสอบสถานะและการประเมินมาตรฐานสิ่งแวดล้อมทางสังคม เพื่อร่วมกันสร้างห่วงโซ่คุณค่าสีเขียว
ขณะเดียวกัน แอสโทรเนอร์จียังวางแผนเพิ่มศักยภาพของโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ในการช่วยอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงส่งเสริมการสร้างระบบหมุนเวียนพลังงานสะอาดและคาร์บอนต่ำในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติในประเทศจีนและทั่วโลก ตลอดจนปกป้องความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ
แอสโทรเนอร์จีได้ให้คำมั่นภายใต้กลยุทธ์การพัฒนาที่ยั่งยืนว่าจะสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าเชิงนิเวศอย่างน้อย 100 โครงการ และช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 10,000 รายให้มีรายได้มากขึ้นผ่านโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อสร้างโลกคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ที่ยั่งยืนโดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ แอสโทรเนอร์จีได้ประกาศจุดยืนในการดำเนินการอย่างจริงจังภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นจุดแข็งที่สำคัญในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2193625/1.jpg