โรงงานแห่งนี้ได้รับไฟเขียวให้เริ่มผลิตเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม และแท่งโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน 12 นิ้วก็ออกจากสายการผลิตครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นำร่องก่อนที่จะมีการผลิตเวเฟอร์ล็อตแรก
นอกเหนือจากกำลังการผลิตเวเฟอร์ 6.5 กิกะวัตต์แล้ว โรงงานแห่งนี้ยังมีกำลังการผลิตเซลล์ 4 กิกะวัตต์ และกำลังการผลิตโมดูล 5 กิกะวัตต์ โดยในส่วนของการผลิตเวเฟอร์ซิลิคอนนั้น ประกอบด้วยการดึงแท่งโมโนคริสตัลไลน์ซิลิคอน การนำแท่งซิลิคอนมาตัดให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยม การตัดแบ่ง และการแปรรูปซิลิคอน โดยเวเฟอร์ที่ผลิตขึ้นส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการผลิตเซลล์และโมดูลที่โรงงานของทรินา โซลาร์ ในเวียดนามและไทย รวมถึงจัดส่งไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา
โมดูลซีรีส์เวอร์เท็กซ์ (Vertex) ที่บริษัทผลิตนอกประเทศจีนนั้น จะช่วยตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในส่วนของโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีกำลังสูง ประสิทธิภาพสูง ความน่าเชื่อถือสูง ให้พลังงานสูง และมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย (LCOE) ต่ำ โดยการผลิตแท่งซิลิคอนและเวเฟอร์ของโรงงานในเวียดนามจะช่วยสร้างความมั่นใจว่า บริษัทจะสามารถจัดหาวัสดุได้อย่างต่อเนื่องเพื่อป้อนโรงงานผลิตโมดูลแห่งอื่น ๆ ของบริษัทที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ
ทรินา โซลาร์ มุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะ บริษัทกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุพันธกิจ "พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับทุกคน" ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้มากขึ้น ตลอดจนสร้างโอกาสในการทำงาน โดยโรงงานผลิตเวเฟอร์ในจังหวัดท้ายเงวียนมีการจ้างพนักงานในท้องถิ่น 700 คน
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามหลักการและแนวปฏิบัติด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกันทั้งในและต่างประเทศ โดยการเริ่มผลิตเซลล์ไอ-ท็อปคอน (i-TOPCon) ชนิดเอ็นไทป์ (n-type) ขนาด 210 มม. ในมณฑลชิงไห่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนั้น ส่งผลให้เกิดการบูรณาการกระบวนการทั้งหมดของโรงงานชิงไห่ และบริษัทก็กำลังเร่งสร้างอุตสาหกรรมเซลล์ชนิดเอ็นไทป์แบบบูรณาการ โดยในยุคเซลล์ชนิดเอ็นไทป์นั้น ทรินา โซลาร์ ถือได้ว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในระบบนิเวศความร่วมมือซึ่งครอบคลุมห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมด
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2194375/The_first_wafers_rolled_of_the_production_line_in_Trina_Solar_Vietnam_factory.jpg