ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท 500 แห่ง หรือเกือบ 40% ของบริษัทที่จดทะเบียนในกระดาน ChiNext ทั้งหมด ได้รับการจดทะเบียนผ่านระบบ IPO แบบใหม่ โดยระดมทุนได้ถึง 5 แสนล้านหยวน (ประมาณ 6.93 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีมูลค่าตลาดรวมทะลุหลัก 3 ล้านล้านหยวน ( 4.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งในบรรดาบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้ เป็นบริษัทในกลุ่มไฮเทคไปแล้วกว่า 90% ซึ่งดำเนินธุรกิจในสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศ อุปกรณ์ขั้นสูง และวัสดุใหม่
นับจนถึง ณ วันที่ 23 สิงหาคม บริษัทที่จดทะเบียนในกระดาน ChiNext จำนวน 385 แห่งประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในรายงานรอบครึ่งปี โดยมีรายได้รวมมากถึง 7.26 แสนล้านหยวน (1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 15% เทียบรายปี) และมีกำไรสุทธิรวม 6.58 หมื่นล้านหยวน (9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 17% เทียบรายปี) สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นศักยภาพของบริษัทเหล่านี้ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยมีบริษัท 74 แห่งที่มีกำไรสุทธิเติบโตกว่า 50% เทียบรายปี นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงสดใส เมื่อวินด์ (Wind) คาดการณ์ว่า บริษัทที่นำไปคำนวณในดัชนี ChiNext จะทำกำไรได้เพิ่มกว่า 30% เทียบรายปี
ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ทำให้ดัชนี ChiNext เป็นที่สนใจของนักลงทุนในช่วงที่ตลาดผันผวนไปมา ปัจจุบันมีกองทุนรวม (ETF) ที่ติดตามกระดาน ChiNext อยู่ 26 รายการ ซึ่งดึงดูดเงินไหลเข้าสุทธิได้ 3.2 หมื่นล้านหยวน (4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ วันที่ 23 สิงหาคม โดยกองทุนรวมที่ติดตามกระดาน ChiNext ของอี ฟันด์ (E Fund) ก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายการนี้ ด้วยส่วนแบ่งตลาดประมาณ 50% เมื่อประเมินจากทรัพย์สินในการดูแล (AuM)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระดาน ChiNext ได้เร่งพัฒนาระบบผลิตภัณฑ์แบบหลายระดับ และอี ฟันด์ แมเนจเมนต์ (E Fund Management) หรือ "อี ฟันด์" ก็ได้รุกหาทางรับมือกับแนวโน้มดังกล่าว ซึ่งในเดือนกันยายน 2565 นั้น การเปิดตัวออปชันกองทุนรวมกระดาน ChiNext โดยมีกองทุนรวมกระดาน ChiNext ของอี ฟันด์ เป็นหลักทรัพย์อ้างอิงนั้น ถือเป็นการประเดิมเปิดตัวอนุพันธ์มาตรฐานที่จดทะเบียนในตลาดรายการแรกบนกระดาน ChiNext ทั้งยังสะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นของอี ฟันด์ ในการนำเสนอเครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงให้กับนักลงทุน นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคม 2565 การนำกองทุนรวมกระดาน ChiNext ของอี ฟันด์ ไปรวมไว้ในโครงการอีทีเอฟ คอนเนกต์ (ETF connect) ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในกระดาน ChiNext ได้ด้วย
คุณปัง ย่าผิง (Pang Yaping) หัวหน้าฝ่ายวิจัยดัชนีของอี ฟันด์ เชื่อว่ากระดาน ChiNext จะได้อานิสงส์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยคนในอุตสาหกรรมต่างคาดหวังว่า คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนจะออกมากระตุ้นครั้งใหญ่และครอบคลุม เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการซื้อขายในกระดาน ChiNext
เกี่ยวกับอี ฟันด์ แมเนจเมนต์
อี ฟันด์ แมเนจเมนต์ (E Fund Management Co., Ltd.) หรือ "อี ฟันด์" ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 เป็นผู้นำด้านการจัดการกองทุนแบบครบวงจรในประเทศจีน โดยมีทรัพย์สินในการดูแลเกือบ 3 ล้านล้านหยวน (4.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) อี ฟันด์ ให้บริการโซลูชันการลงทุนแก่ลูกค้าทั้งในและนอกประเทศ ช่วยให้ลูกค้าได้รับผลการดำเนินงานด้านการลงทุนที่ยั่งยืนในระยะยาว ลูกค้าของอี ฟันด์ มีทั้งบุคคลและสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลาง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม กองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันภัยและประกันภัยต่อ ไปจนถึงบริษัทและธนาคาร อี ฟันด์ มุ่งลงทุนในระยะยาว โดยมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจการจัดการการลงทุนตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และเชื่อมั่นในพลังของการวิจัยเชิงลึกและเวลาในการลงทุน เป็นผู้บุกเบิกและผู้ประกอบการชั้นนำด้านการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบในประเทศจีน ทั้งยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่น่าเชื่อถือและโดดเด่นที่สุดของจีน