คุณโน้ต เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์และข้อดีในการทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศว่า "อย่างแรกเลย คือ การได้มีโอกาสเริ่มงานในองค์กรมหาชน ทำให้มองเห็นภาพรวมของการทำงานร่วมกันทั้งองค์กร เราได้เห็นภาพใหญ่ Vision & Mission รวมไปถึงแผนการปฏิบัติงาน Action plan ของแต่ละฝ่าย ได้เรียนรู้การทำงานที่เป็นระบบ ได้เรียนรู้มาตรฐานการทำงานที่ดี"
"อย่างที่สอง คือ ได้ทำงานกับคนหลากหลายบทบาทหน้าที่ ทำให้เรารู้ว่ากว่าจะจบงานแต่ละโปรเจค เราต้องติดต่อประสานงานกับใครบ้าง ตรงนี้ทำให้เราได้ซึมซับเรื่องการสื่อสารมา สิ่งสำคัญที่สุด เราต้องจริงใจกับงานที่เราทำ รักในงาน สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ไม่ว่าจะเจออะไร เราจะหาโซลูชั่นได้และสร้างผลงานออกมาได้ดีที่สุดเสมอ"
เมื่อรายได้ก็สำคัญ เพราะบริษัทต้องดำรงอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง และยังต้องมีกำไรเพื่อตอบแทนพนักงาน และขยายกิจการในอนาคต ฉะนั้นการทำให้ลูกค้าเลือกเรา อยากทำงานกับเรา นึกถึงเราทุกครั้งที่อยากทำพีอาร์ คุณโน้ต กล่าวว่า อันดับแรก เราต้องรู้ถึงเป้าหมายของลูกค้าก่อนว่าต้องการผลลัพธ์แบบไหน หรือต้องการประสบความสำเร็จด้านใด ทำความเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการจะสื่อออกไปยังสาธารณะ เราเปรียบเสมือนกระบอกเสียงหรือตัวกลางในการส่งต่อข้อมูลข่าวสารให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
"ที่ผ่านมา บริษัทเรามีลูกค้าจากภาครัฐและเอกชนมากมาย อาทิ กระทรวงพาณิชย์, สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (ทีเส็บ), สสส., อพท. NCC, โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท, ม.ธรรมศาสตร์, วิทยาลัยนานาชาติหอการค้า, วิทยาลัยนานาชาติมหิดล, SCG, โจตัน, เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์, อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, รพ.กรุงเทพ, รพ.นครธน, รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง, รมรวินทร์, เรียลมี, อัสซุส ฯลฯ
"มีลูกค้าบอกเราว่า ที่ประทับใจ Notable ที่สุดคือการเป็นพีอาร์ที่เหนือความคาดหมาย Beyond expectation เวลาเรารับบรีฟจากลูกค้ามา เราไม่ได้ทำแค่แก้ตามโจทย์ แต่เราพยายามตีโจทย์ให้แตกและต่อยอดสร้างพันธมิตรทางธุรกิจPartnership จนสามารถนำไปสู่ระบบนิเวศทางธุรกิจ Business Ecosystem ที่มีความสัมพันธ์ส่งเสริมกันในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ และการเติบโตที่ยั่งยืนของแบรนด์"
"ลูกค้าอีกเจ้าบอกว่า Notable ทำงานในมิติของพาร์ทเนอร์ ฉีกการทำงานแบบเดิม คิดนอกกรอบ มีความยืดหยุ่นและการปรับตัวทำได้ดี ลูกค้ารู้สึกสบายใจในการมอบหมายงาน พอได้มีโอกาสที่มาเป็นฝ่ายรับงานด้วยกัน ก็จะเกิดการร่วมมือที่ดีได้คุณภาพและมีจุดเด่นไม่เหมือนใคร"
หากพูดถึงเกณฑ์ในการเลือกรับงานหรือเลือกทำงานกับลูกค้าเจ้าใดเจ้าหนึ่ง ผู้บริหารของ Notable Bangkok เน้นว่า หากเป้าหมายของลูกค้ามีเรื่องของการช่วยเหลือสังคมด้วยก็จะยิ่งมีความสุขใจในการทำงานมากขึ้นด้วย
ความประทับใจในการทำงานร่วมกับลูกค้าคือ ชอบทำงานที่ได้เป็นส่วนขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้น เราโตมาจากสายโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ ได้ทำงานสายคอนเทนต์ที่มีความซับซ้อน พอมาเปิดเอเจนซี่ ได้ทำงานให้ลูกค้าที่เป็นโรงพยาบาล เมื่อได้นำเสนอเนื้อหาและสื่อสารให้คนเข้าใจอาการ วิธีป้องกัน หรือรักษาโรคต่าง ๆ ให้ผู้คนได้ดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคได้ รู้สึกว่ามีประโยชน์กับคนในสังคมมาก แม้ว่าตอนทำจะมีความยากก็ตาม เพราะต้องทำภาษาแพทย์ให้เป็นภาษาที่คนอ่านเข้าใจ และยังมีเรื่องแพทยสภาต่าง ๆ ที่ต้องให้ความสำคัญ อะไรทำได้ทำไม่ได้ เราต้องแม่น"
หรือช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา Notable ได้เข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมไมซ์ MICE อุตสาหกรรมที่ติด 1 ใน 5 ในการสร้างรายได้ให้ประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการได้ทำงานร่วมกับชุมชน ได้เข้าไปเตรียมงาน เตรียมสถานที่ ได้เห็นความร่วมมือของชุมชน ได้เห็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน แม้บางครั้งงานจะหนักและเหนื่อย แต่ทำแล้วรู้สึกมีคุณค่าและมีความสุข สุขใจที่ได้ทำเพื่อสังคม เข้าชุมชนที่ก็หมดเงินไปกับการอุดหนุนชุมชนอีกด้วย"
"เราคิดว่าเรามีความจริงใจกับงาน และมีความตั้งใจและทุ่มเทกับงาน เราสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้สนับสนุนและเป็นทีมเดียวกับลูกค้า พร้อมรับคำติคำชม ยืดหยุ่น และพร้อมพัฒนาอยู่เสมอ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ายังร่วมงานกับเราอย่างต่อเนื่อง แม้บางงานจบไปแล้วยังช่วยเหลือส่งเสริมกันเรื่องอื่น ๆ ต่ออีก สำหรับการช่วยเหลือส่งเสริมด้านสังคมนั้น Notable ก็เป็นองค์กรที่อยากส่งเสริมสนับสนุนกิจการเพื่อความยั่งยืนของสังคมอยู่แล้ว เลยถือเป็นการทำงานที่ตอบโจทย์ทั้งการบริหารงานบริษัทและกิจกรรมเพื่อสังคมไปในตัว สร้างคุณค่าและผลตอบแทนสู่สังคมที่มากกว่ารายได้" คุณโน้ต-ไอยย์รัศ สิทธิพูล กล่าวทิ้งท้าย
การเป็นพีอาร์ที่ดี ไม่ได้มองแต่รายได้เพียงเท่านั้น การสร้างจุดเด่นหรือความแตกต่างเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดภาพจำ ยิ่งการสร้างคอนเท็นต์ที่ดีมีคุณภาพ เช่น การประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน จนก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ สร้างรายได้สู่สังคม เสริมความแข็งแกร่งให้ชุมชนจนสามารถพึ่งตนเองได้ นับเป็นความท้าทายในการประชาสัมพันธ์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน มีคุณค่าทั้งทางจิตใจ ได้ผลลัพธ์ดี ๆ กลับมาอย่างคาดไม่ถึง ทั้งความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ทำให้เกิดการบอกต่อ การกลับมาใช้บริการซ้ำ ทำให้บริษัทอยู่ได้ สังคมเดินหน้า สามารถสร้าง Business Ecosystem ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ที่มา: Notable Bangkok