รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน มุ่งมั่นเสริมสร้างความร่วมมือในฐานะศูนย์กลางการเติบโตของโลก

ศุกร์ ๐๑ กันยายน ๒๐๒๓ ๑๗:๒๐
อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN Finance Ministers and Central Bank Governors Meeting หรือ AFMGM) ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ณ กรุงจาการ์ตา การประชุมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลกหลังยุคโควิด-19 ด้วยการกำหนดนโยบายร่วมกันเพื่อแก้ไขข้อกังวลต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน ตลอดจนสานต่อความพยายามเพื่อรักษาระดับการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวของภูมิภาคอาเซียน

การประชุม AFMGM ได้ติดตามความก้าวหน้าของประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจที่อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนผลักดันให้บรรลุผลสำเร็จ (Priority Economic Deliverables) ตลอดจนจัดการกับปัญหาเร่งด่วนในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการฟื้นตัวและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ (การฟื้นฟู-การสร้างใหม่) การเข้าถึงบริการทางการเงินดิจิทัลเพื่อการเติบโต (เศรษฐกิจดิจิทัล) และการส่งเสริมการเงินสีเขียว (ความยั่งยืน)

เศรษฐกิจอาเซียนมีความโดดเด่นท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่าจะเติบโต 4.5% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก อาเซียนสามารถบริหารจัดการอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนได้เป็นอย่างดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก

การอภิปรายหลักในการประชุม AFMGM ประกอบด้วยประเด็นการรักษาแรงผลักดันเชิงกลยุทธ์ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ แรงกดดันจากหนี้สิน และความท้าทายด้านความยั่งยืน นอกจากนี้ การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการประสานงานด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและการบริหารความเสี่ยง ก็ถือเป็นประเด็นสำคัญในระดับภูมิภาคเช่นกัน

นางศรี มุลยานี (Sri Mulyani) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า "ที่ประชุมได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่แตกต่างกันไปในประเทศอาเซียน ด้วยการใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีเพื่อรับประกันเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในภูมิภาค นอกจากนั้นยังมีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของนโยบายที่มีการประสานงานกันเป็นอย่างดีเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่มีอยู่"

เพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาวของภูมิภาคอาเซียน ที่ประชุม AFMGM ได้เน้นย้ำถึงความพยายามในการปรับปรุงการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค โดยมีการปรับเปลี่ยนสถานะของกองทุนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Infrastructure Fund หรือ AIF) ให้เป็นกองทุนสีเขียวอาเซียน (ASEAN Green Fund) และประเทศสมาชิกเห็นพ้องต้องกันที่จะส่งเสริมการจัดหาเงินทุนของ AIF ให้สอดคล้องกับเกณฑ์การจัดหมวดหมู่ด้านการเงินที่ยั่งยืนของอาเซียน (ASEAN Taxonomy for Sustainable Finance) รวมถึงปรับปรุงขั้นตอนการทำงานของ AIF ตลอดจนกำหนดแผนการปรับโครงสร้างเงินทุนและเพิ่มประสิทธิภาพเงินทุนที่มีอยู่

ที่ประชุม AFMGM ยังเน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมการจัดหาเงินทุนเพื่อความสำเร็จของเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในภูมิภาคอาเซียน โดยที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับเกณฑ์การจัดหมวดหมู่ด้านการเงินที่ยั่งยืนของอาเซียน เวอร์ชัน 2 ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามในการเปลี่ยนผ่านอย่างเท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นระเบียบเรียบร้อยในภูมิภาค

ขณะเดียวกัน การดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือทางการเงินอาเซียนปี 2566 (ASEAN Finance Process 2023) ได้ส่งเสริมความร่วมมือข้ามภาคส่วน โครงการริเริ่มด้านการเงิน-สุขภาพ และความมั่นคงทางอาหาร โดยเหล่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวถึงการป้องกัน การเตรียมความพร้อม และการอุดช่องว่างด้านเงินทุนในการตอบสนองต่อโรคระบาด ผ่านการระดมทรัพยากรต่าง ๆ เช่น กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 (ASEAN COVID-19 Response Fund) นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร อาเซียนยังตั้งเป้าว่าจะปรับปรุงนโยบายด้านอาหาร การเข้าถึงเงินทุนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และการอำนวยความสะดวกทางการค้า

ในส่วนของการเงินนั้น นายเพอร์รี วาร์จิโย (Perry Warjiyo) ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นด้านการบูรณาการของอาเซียนผ่านข้อริเริ่มการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction หรือ LCT) และการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค (Regional Payment Connectivity หรือ RPC) ซึ่งผ่านการรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566

สำหรับประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารกลางประกอบด้วย การปรับปรุงนโยบายเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อรองรับการเติบโต การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การปฏิรูปโครงสร้าง และการเงินสีเขียว ขณะเดียวกันยังมีการอภิปรายเกี่ยวกับกรอบการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินท้องถิ่นและการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาค ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version