การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ถึง 4 GWh ต่อปี ซึ่งการร่วมมือกับ กรีน เยลโล่ นี้ ทำให้ทิปโก้ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งสอดคล้องกันวิสัยทัศน์ของทิปโก้ในการสร้างสุขภาวะที่ดีให้แก่คนในสังคม โดยใช้ความเข้าใจ และการส่งมอบสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแต่ละวัน นอกจากนี้ โครงการนี้ ยังมีส่วนสำคัญต่อเป้าหมายของทิปโก้ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าลง 25% ภายในปี 2568
พสิษฐ์ อัครนันท์กรณิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายของเราไม่เพียงแต่สร้างความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นให้กับสังคมผ่านสินค้าของเราเท่านั้น แต่เรายังมุ่งส่งเสริมสังคมที่ยั่งยืนสำหรับคนไทยทุกคน เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือของเรากับ กรีน เยลโล่ โดยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะยาวนี้ จะช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมและสังคมของเราพัฒนาไปในทางที่ดียิ่งขึ้น และมีส่วนสำคัญในการสร้างอนาคตที่สดใสให้แก่ทุกคน"
แฟรงค์ คลุค ประธานกรรมการบริหารของกรีน เยลโล่ ประเทศไทยและเอเชีย กล่าวว่า "เราภูมิใจที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการลงทุน ออกแบบ และติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังการติดตั้งถึง 2.77 MWp ในโรงงานสำคัญของทิปโก้ โดยเรามีเป้าหมายที่สอดคล้องกับทางทิปโก้ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นให้กับสิ่งแวดล้อมและสังคมไทย นอกจากนี้ ทิปโก้ยังมีเป้าหมายในการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้พลังงานสีเขียว ซึ่ง กรีน เยลโล่ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดให้กับโลกของเราได้อย่างแน่นอน"
ธุรกิจของ กรีน เยลโล่ คือการให้บริการโซลูชันด้านพลังงานอย่างครบวงจร ผ่านโซลูชั่น Solar PPA (Power Purchase Agreement) ที่ได้มีการออกแบบบริการโซลูชั่นให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป โดยที่ไม่ต้องลงเงินลงทุน และไม่มีค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา โดย ทางกรีน เยลโล่ จะเป็นผู้ตรวจสอบผลผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ในระยะยาว เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทได้รับความคุ้มค่าด้านการใช้ไฟฟ้าพลังงานสะอาด พร้อมกับได้รับพลังงานที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เป้าหมายของ กรีน เยลโล่ ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับเป้าหมายของรัฐบาล ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ภายในปีพ.ศ. 2573 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2593 อีกด้วย
ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์