บล.ทิสโก้แนะ ทยอยขายหุ้นไทย ล็อกกำไรช่วงราคาปรับขึ้น

อังคาร ๐๕ กันยายน ๒๐๒๓ ๑๗:๐๒
บล.ทิสโก้ แนะนักลงทุนทยอยขายหุ้นล็อกกำไรช่วงราคาปรับขึ้นแรง ชี้นักวิเคราะห์มีแนวโน้มหั่นกำไรบริษัทจดทะเบียนลงอีก รับเศรษฐกิจโตต่ำ ส่งออกยังไม่ฟื้น และเบิกจ่ายงบปี 2567 ล่าช้า กดดันหุ้นทะลุ 1,600 จุดได้ยาก 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บล.ทิสโก้แนะนำให้ติดตามว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับเปลี่ยนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต (Dot Plot) หรือไม่จากเดิมในเดือนมิถุนายนที่ FED มองอัตราดอกเบี้ยสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 5.6% และจะลดลงเป็น 4.6% และ 3.4% ในปี 2567F และ 2568F ตามลำดับ หาก FED มีการปรับระดับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยไปในทางที่เข้มงวดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลกผันผวนได้ โดยเฉพาะหุ้นในตลาดพัฒนาแล้ว (DM) ที่ปรับตัวขึ้นดีพอสมควรในปีนี้ และระดับการประเมินมูลค่าในปัจจุบันอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว

สำหรับไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาลต่อจากนี้ บล.ทิสโก้คาดว่าจะได้รัฐบาลใหม่ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ ทำให้งบประมาณปี 2567 ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้มีความล่าช้าแน่นอนอย่างน้อย ๆ 3 เดือน ในแง่ของผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากการประเมินของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดว่าจะกระทบเศรษฐกิจราว 0.2-0.8% หลัก ๆ มาจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลงโดยเฉพาะการใช้จ่ายด้านลงทุน

ในแง่ของผลกระทบต่อตลาดหุ้น จากการศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปี 2562 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2563 ที่การพิจารณางบประมาณปี 2563 มีความล่าช้า 5 เดือนพบว่า SET Index แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ โดยหากไม่คำนึงถึงผลตอบแทนในเดือนกุมภาพันธ์ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงงบประมาณล่าช้าดังกล่าว SET Index ให้ผลตอบแทนติดลบ -7.5% หรือเฉลี่ย -1.9% ต่อเดือน

นอกจากนี้ บล.ทิสโก้มองเศรษฐกิจไทยปีนี้มีความเสี่ยงโน้มไปด้านต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ที่ +3.6% จากภาคการส่งออกสินค้าที่ยังคงอ่อนแอ และการใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากความล่าช้างบประมาณประจำปี 2567 เพราะฉะนั้น บล.ทิสโก้มองประมาณการกำไรของตลาดโดยรวมยังมีความเสี่ยงหั่นลงอีก ทำให้ปัจจัยบวกจากการตั้งรัฐบาลไม่น่ามีน้ำหนักผลักดันให้ SET Index ทะลุ 1,600 จุดได้ง่าย ๆ

ด้วยบล.ทิสโก้มองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นจำกัด บล.ทิสโก้จึงใช้กลยุทธ์เลือกซื้อเป็นรายตัว (Selective Buy) ในหุ้นที่มีองค์ประกอบทั้ง 3 ข้อดังนี้ (1) แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังคาดจะดีกว่าครึ่งปีแรก (2) ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จากมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานมากกว่า 20% และ (3) มีปัจจัยบวกในระยะสั้น อาทิ การฟื้นตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว, การขยายตัวของการบริโภคในประเทศ และการกระตุ้นเศรษฐกิจ-เดินหน้าประเทศจากภาครัฐ เป็นต้น หุ้นเด่นที่บล.ทิสโก้แนะนำในเดือนกันยายน คือ BDMS, CENTEL, CPAXT, DMT, MENA, SISB และ TU ด้านแนวรับสำคัญของ SET Index เดือนนี้อยู่ที่ 1,550-1,560 จุดและแนวรับต่อไปที่ 1,520-1,530 จุด และแนวต้านสำคัญที่ 1,580 จุด และแนวต้านต่อไปที่ 1,600-1,620 จุด ตามลำดับ

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO