นายพิศาล พงศาพิชณ์เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) มอบหมายให้นางสาวรวินันท์ ฉ่ำเฉลิม ผู้อำนวยการกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย พร้อมด้วยนางสาวรุจิรา จันทร์อร่าม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ เข้าร่วมประชุมคณะทำงานด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ครั้งที่ 2 (Working group on Sanitary and Phytosanitary Measures: WG - SPS) ซึ่งจัดขึ้นในช่วงการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ (Comprehensive Economic Partnership Agreement: CEPA) ระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม - 1 กันยายน 2566 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ผู้แทนไทยและผู้แทน UAEได้หารือและเจรจาจัดทำรายละเอียดของร่างข้อบทด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชร่วมกันภายใต้คณะทำงานด้าน SPS เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติในการบังคับใช้มาตรการ SPS สำหรับการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ให้อยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน
ในการประชุมครั้งที่ 2 นี้ทั้งสองฝ่ายได้ผลักดันสาระสำคัญของการเจรจาและแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติด้าน SPS โดยเห็นชอบร่วมกันที่จะให้ข้อบทฉบับนี้มุ่งเน้นที่ความร่วมมือทางด้านวิชาการสนับสนุนการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอาหาร รวมถึงแก้ไขปัญหาทางการค้าที่เกิดจากมาตรการ SPS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านกลไกการปรึกษาหารือ (Technical Consultation) ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานทางด้าน SPS ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย จนสามารถตกลงกันได้สำเร็จ 11 หัวข้อ เหลืออีกเพียง 2 หัวข้อที่ทั้งสองฝ่ายต่างจะต้องกลับไปพิจารณาก่อนที่จะกลับมาหารือและสำเร็จการเจรจาร่วมกันให้ได้ภายในการประชุมครั้งต่อไปในช่วงปลายเดือนกันยายน 2566 ที่ประเทศไทย
ทั้งนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตลาดขนาดเล็กด้วยมีประชากรเพียง 9 ล้านคน แต่เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยเป็นอย่างมาก โดยหากการเจรจา CEPA ระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สำเร็จ จะเป็นเครื่องมือทางการค้าที่สำคัญในการอำนวยความสะดวกทางการค้าและมั่นใจได้ว่ามาตรการทางการค้าของทั้งสองประเทศจะไม่เป็นอุปสรรคหรือข้อจำกัดระหว่างกัน
ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์รวมไปถึงประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางอีกด้วย
ที่มา: สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ