นายสรุจ ทิพเสนา กรรมการบริหาร และ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด อดีตผู้บริหารฝ่ายโซลูชันองค์กร ไมโครซอฟต์ (ประเทศไทย) ได้เปิดเผยว่า "ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม เอส เทลลิเจนซ์ ซึ่งการเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานครั้งนี้ เพราะได้เห็นถึงโอกาสที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนองค์กรของคนไทยให้เติบโตไปพร้อมกับ AI Transformation ที่กำลังมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในโลกปัจจุบัน ในฐานะที่ เอส เทลลิเจนซ์ เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในเรื่อง Data Analytics, RPA Automation และ Cybersecurity มากว่า 10 ปี จึงมีความพร้อมที่จะต่อยอดโซลูชันต่าง ๆ ด้วย AI ที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพให้กับกลุ่มลูกค้าของเรามากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนโซลูชันให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น (Localization and Customization) เพื่อให้เกิดความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว"
ด้วยบทบาทสำคัญของนาย สรุจ ทิพเสนา ในการเป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยี Cloud Computing รวมทั้งยังเผยแพร่แนวคิดด้านความปลอดภัย Zero Trust และ Generative AI โดยได้ให้ความรู้แก่ลูกค้า คู่ค้า ชุมชนเทคโนโลยีของไมโครซอฟต์ และสื่อมวลชนในวงกว้าง ทำให้เขาได้เห็นโอกาสและความท้าทายใหม่ที่จะสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในการเข้ามาร่วมงานกับ เอส เทลลิเจนซ์
"โลกธุรกิจทุกวันนี้ ล้วนเต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย ดังนั้น กุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ AI จึงอยู่ที่การจัดการกับข้อมูลเหล่านั้น เราจึงให้ความสำคัญกับแนวคิด 'Connected Intelligence' ที่เป็นการเชื่อมโยงฐานความรู้ที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเสริมศักยภาพของ AI ให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากฐานข้อมูลแบบเดิมจะมีข้อจำกัดในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนภายในชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ดังนั้น การบริหารจัดการชุดข้อมูลด้วย 'Connected Intelligence' จะทำให้เราสามารถวางรากฐานสำหรับ AI ที่มีประสิทธิภาพสูง และสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากและยั่งยืนยิ่งขึ้น"
"อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการทำงาน คือเรื่องของความรวดเร็ว (Speed) เนื่องจากเทคโนโลยี AI มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ตลาดเมืองไทยต้องพร้อมปรับตัว และต้องพัฒนาความสามารถ (Skill) ของคนในองค์กรให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ ภายใต้ข้อจำกัดของภาษา ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหนึ่งในโซลูชันของ เอส เทลลิเจนซ์ ที่จะต้องก้าวข้าม" นายสรุจกล่าวเสริม
ด้วยประสบการณ์ 20 ปี ในบริษัทเทคโนโลยีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้คุณสรุจ ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ เอส เทลลิเจนซ์ เขาได้เข้ามาดูแลรับผิดชอบด้านการวางกลยุทธ์การบริหาร การพัฒนาบุคลากร การปรับใช้ AI ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมขององค์กรต่าง ๆ
"บทบาทของผมที่นี่นอกเหนือไปจากการบริหารพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ ให้กับลูกค้าแล้ว ก็คือการเป็น โค้ช ที่คอยให้คำปรึกษาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ผมมีความมุ่งมั่นที่จะนำเอาประสบการณ์ ความรู้ต่าง ๆ ถ่ายทอดสู่ทีมงานของ เอส เทลลิเจนซ์ เกือบ 100 คน พร้อมผลักดันให้บรรลุศักยภาพอย่างเต็มที่ ผมเชื่อว่าประเทศไทยไม่เคยขาดแคลนคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ แต่สิ่งที่เราต้องมอบให้กับคนรุ่นใหม่ คือ โอกาส บทเรียนต่าง ๆ ตลอดจนแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานสากลที่จำเป็นในการทำงานให้สำเร็จ เพื่อที่จะส่งมอบเทคโนโลยีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าของเรา และทำให้ เอส เทลลิเจนซ์ เป็นสถานที่สำหรับทุกคนที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในโลกแห่ง AI" คุณสรุจ กล่าวปิดท้าย
ที่มา: บีโอดับเบิลยู