เปิดตัวทีมบุคลากรดิจิทัลไทยเจ็นใหม่ คว้าชัยจากการแข่งขันเวทีระดับประเทศ Huawei ICT Competition พ.ศ. 2565-2566

พุธ ๑๓ กันยายน ๒๐๒๓ ๐๙:๔๕
จาก "พลเมืองดิจิทัล" สู่ "บุคลากรดิจิทัล" เปี่ยมคุณภาพ ร่วมสร้างอีโคซิสเต็มไอซีทีที่สมบูรณ์แก่ประเทศ

จากจุดเริ่มต้นในการเดินทางของการแข่งขัน Huawei ICT Competition 2022-2023 (ประจำปี พ.ศ. 2565-2566) ที่บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัวโครงการการแข่งขันทักษะด้านดิจิทัลในระดับนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยมีผู้แข่งขันเข้าร่วมกว่า 200 คนจากทั่วประเทศ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา เมื่อไม่นานมานี้ หัวเว่ย ประเทศไทย พร้อมพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันจัดพิธีปิดการแข่งขัน Huawei ICT Competition 2023 พร้อมฉลองความสำเร็จของทีมนักศึกษาไทยที่ได้รับทุนการศึกษาและรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมถึงสนับสนุนด้านอุปกรณ์อันทันสมัยเพื่อประโยชน์ด้านการศึกษา และโอกาสที่จะได้เข้าฝึกงานกับหัวเว่ยต่อไป

นอกจากความสำเร็จในการคว้าชัยชนะเลิศระดับประเทศแล้ว น้อง ๆ เยาวชนทีมชนะเลิศได้เผยถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมตลอดเส้นทางการแข่งขัน รวมถึงความภูมิใจในการเป็นตัวแทนทีมนักศึกษาของประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันชิงชนะเลิศในรอบ Huawei ICT Competition 2022-2023 Regional Final round ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ กรุงจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

นายณัฐพัชร์ บัวคำโคตร์ นายธีรวีร์ ฐิติวัฒนากรศิริ และนายนพณัฐ คำเมือง นักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จากทีม "First Timer" ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศ ในสาขา Network Track ได้เปิดใจถึงชัยชนะและสิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ "ถือเป็นครั้งแรกของพวกเราทั้งสามคนในการรวมตัวกันเพื่อลงแข่งขันด้านเน็ตเวิร์กในเวทีระดับประเทศ พวกเราทุกคนจึงรู้สึกดีใจมากกับการคว้าชัยชนะในครั้งนี้ ซึ่งมีความท้าทายในทุกรอบของการแข่งขัน ตั้งแต่การเข้าเวิร์กชอป การแข่งขัน การตัดสินของคณะกรรมการ รวมไปถึงการแข่งขันรอบ Final ในระดับภูมิภาคที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งโจทย์ที่ได้คือการออกแบบโซลูชันไอที เพื่อตอบโจทย์และครอบคลุมความต้องการขององค์กร ในการวางระบบเน็ตเวิร์กภายในให้กับองค์กรทั้งสำนักงานใหญ่และสาขา ด้วยการใช้ Wi-Fi การออกแบบและติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ การวางระบบ Firewall และการเชื่อมต่อ ด้วยเทคโนโลยีที่กำหนดให้ เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้กับองค์กร"

"สำหรับความสำเร็จในการคว้าชัยชนะสาขา Network Track ครั้งนี้ เราขอขอบคุณคณะอาจารย์ที่คอยให้คำปรึกษา โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขันรอบไฟนอลที่ประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงหัวเว่ยที่ให้ความรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยเฉพาะหลักสูตร "We Know How" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กชอปอีกด้วย"

"การแข่งขันในเวทีนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า การต่อยอดความรู้และทักษะด้านไอทีในตลาดเป็นอย่างไร และได้สร้างแรงบันดาลใจสำคัญ ทำให้เราเป็นมากกว่า "พลเมืองดิจิทัล" และพร้อมก้าวสู่ "บุคลากรดิจิทัล" ที่มีทักษะ เพื่อยกระดับเทคโนโลยีให้กับคนทั่วโลกได้มีโอกาสเข้าถึง เราตั้งปณิธานในการร่วมกันพัฒนา IoT (Internet of Things) หรือการเชื่อมต่อถึงกันและแบ่งปันข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตของอุปกรณ์ เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับระบบคลาวด์ให้กับประเทศไทยและโลกของเราได้ในอนาคต"

ขณะที่ทีม "FASCINATOR" ทีมชนะเลิศสาขา Cloud Track ซึ่งประกอบด้วย น.ส.ดุษฎี เลิศอภิรักษ์วงศ์ และ น.ส.ทัตพิชา วงษา นักศึกษาปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์ ร่วมกับ น.ส.ภัทรวรินทร์ ลูกน้ำเพชร นักศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้กล่าวถึงการคว้าชัยชนะในครั้งนี้ว่า "ด้วยความหลงใหลในเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ พวกเราทั้งสามคนจึงมองว่า เราสามารถเป็นมากกว่า "พลเมืองดิจิทัล" ของประเทศได้ นอกจากใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อเอื้อกับการใช้ชีวิตแล้ว เรายังต้องการเป็น "บุคลากรดิจิทัล" ให้ได้ เราจึงตัดสินใจฟอร์มทีม "FASCINATOR" ซึ่งหมายถึงความหลงใหลที่มีร่วมกัน และเข้าร่วมแข่งขัน Huawei ICT Competition 2022-2023"

"พวกเราได้รับโจทย์ในการทำโปรเจคด้านเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง จึงมีโอกาสเรียนรู้ทฤษฎีเชิงลึก การฝึกอบรม เวิร์กชอป รวมถึงการทำแล็บ และที่ท้าทายที่สุดคือการเข้าร่วมแข่งขันรอบไฟนอลในระดับภูมิภาคที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเราได้เรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมากมายผ่านภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยเฉพาะการใช้หัวเว่ยคลาวด์ในการทำแล็บ และออกแบบโซลูชันคลาวด์ตามโจทย์ที่ได้รับโดยประยุกต์ใช้หัวเว่ยคลาวด์ รวมถึงทรัพยากรด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ของหัวเว่ย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด"

"เราขอขอบคุณหัวเว่ย ที่สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งความรู้ด้านเทคโนโลยีให้กับนิสิตนักศึกษาได้เป็นอย่างดีและเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแข่งขัน Huawei ICT Competition 2022-2023 ได้เสริมองค์ความรู้ครบทุกด้าน ทำให้เราเห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้งของหัวเว่ย ที่สามารถนำมาตอบโจทย์ความต้องการให้กับผู้ใช้ได้จริงในทุกระดับ ชัยชนะของเราในครั้งนี้ได้จุดประกายให้เราต่อยอดองค์ความรู้ สู่การเป็นบุคลากรดิจิทัลที่เปี่ยมด้วยคุณภาพขององค์กร และยังจะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่ออีกด้วย"

ด้านอาจารย์ที่ปรึกษาของทีม "First Timer" และทีม "FASCINATOR" ประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.โชติพัชร์ ภรณวลัย, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุเมธ ประภาวัต ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ลภัส ประดิษฐ์ทัศนีย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรางคณา กิ้มปาน ได้กล่าวเสริมถึงการแข่งขัน Huawei ICT Competition 2022-2023 ในครั้งนี้ว่า "ในยุคเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี เราทุกคนตระหนักว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งเทคโนโลยีด้านเน็ตเวิร์ก คอมพิวเตอร์ และ AI ซึ่งเทคโนโลยีต่าง ๆ ต้องทำงานร่วมกัน หากเราสอดประสานเทคโนโลยีทั้งหมด จะส่งผลให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และการเอื้อในการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น เราขอขอบคุณหัวเว่ย ที่จัดการแข่งขัน Huawei ICT Competition 2022-2023 ขึ้น ถือเป็นการสร้างความร่วมมือที่ดีระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา และเอกชน นำไปสู่การพัฒนาเครือข่ายดิจิทัลของประเทศให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาในการพัฒนาตนเอง ซึ่งจากการแข่งขันที่ผ่านมาเราได้เห็นความสนใจของนักศึกษาในเทคโนโลยีของหัวเว่ยด้านเน็ตเวิร์ก คลาวด์ คอมพิวติ้ง โทรคมนาคม และ AI เป็นพิเศษ

อาจารย์ที่ปรึกษากล่าวต่อว่า "ประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรดิจิทัลอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดงานด้านไอทีต้องการแรงงานเฉพาะทาง ซึ่งสิ่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของประเทศ ดังนั้น สถาบันฯ จึงมุ่งมั่นให้ความรู้และพัฒนานักศึกษา รวมถึงสนับสนุนให้เข้าร่วมแข่งขันในเวทีต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสในการรับความรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และก้าวสู่การเป็นแรงงานทักษะดิจิทัลที่มีศักยภาพและมีประสิทธิภาพ และเราหวังว่าจะช่วยความสมบูรณ์ในอีโคซิสเต็มของตลาดงานของประเทศต่อไปในอนาคต"

หัวเว่ยมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มไอซีทีที่สมบูรณ์ให้กับประเทศไทย สอดคล้องกับพันธกิจ "เติบโตพร้อมกับประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทย (Grow in Thailand, Contribute to Thailand)" โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ฝึกอบรมบุคลากรที่ดิจิทัลไปกว่า 70,000 คน สำหรับปี พ.ศ. 2566 หัวเว่ยตั้งเป้าสร้างนักพัฒนาด้านไอซีทีอีก 10,000 คน และภายใน 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2566-พ.ศ. 2568) หัวเว่ยตั้งเป้าสร้างนักพัฒนาด้านคลาวด์อีกกว่า 20,000 คน เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มไอซีทีที่แข็งแกร่งให้กับประเทศ

ที่มา: คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ