โมดูลเวอร์เท็กซ์ชนิดเอ็นไทป์เต็มรูปแบบ
เทคโนโลยีโมดูลไอ-ท็อปคอนชนิดเอ็นไทป์ของทรินา โซลาร์ มาพร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ความน่าเชื่อถือในระยะยาว และต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย (LCOE) ที่ต่ำลง เพื่อนักพัฒนา บริษัทรับเหมาด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ และการก่อสร้าง (EPC) รวมถึงผู้ติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ โดยทรินา โซลาร์ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในตระกูลเวอร์เท็กซ์ชนิดเอ็นไทป์ รวมถึงเวอร์เท็กซ์ เอสพลัส และเวอร์เท็กซ์ เอ็น ซึ่งรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทั้งการติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และโรงงานอุตสาหกรรม ไปจนถึงโรงไฟฟ้าระดับสาธารณูปโภค
โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอสพลัส มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสูง แต่มีขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับใช้งานในที่อยู่อาศัย โดยใช้เซลล์ท็อปคอนชนิดเอ็นไทป์แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 210 มม. และกินพื้นที่ไม่ถึง 2 ตารางเมตร (1,762 x 1,134 มม.)
ส่วนโมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น 610 วัตต์ สามารถใช้งานร่วมกับระบบติดตามดวงอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี โดยระบบติดตามแบบแถวเดียวมีกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นถึง 13% นอกจากนี้ ขนาดของโมดูลที่เป็นนวัตกรรมใหม่และได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ยังเพิ่มความเป็นไปได้ในการใช้งานระดับสาธารณูปโภคหรือเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ตลอดจนเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ตู้คอนเทนเนอร์ 40HC ได้ถึง 98.5% ซึ่งช่วยให้ลูกค้าประหยัดต้นทุนโลจิสติกส์และต้นทุนอุปกรณ์ประกอบระบบ (BOS)
ขณะที่โมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น 700 วัตต์ มีการจัดแสดงในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่บูธของทรินา โซลาร์ โดยหลังจากที่ทรินา โซลาร์ ผลิตโมดูลเวอร์เท็กซ์ เอ็น 700 วัตต์+ ปริมาณมากในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทก็ได้กลายเป็นผู้ผลิตโมดูลรายแรกที่ผลิตโมดูลท็อปคอนกำลังไฟฟ้าเกิน 700 วัตต์ในปริมาณมาก
นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงโมดูลเวอร์เท็กซ์ 670 วัตต์ ที่ใช้เซลล์ PERC ขนาด 210 มม. ซึ่งมีจุดเด่นสำคัญ 4 ประการที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย ได้แก่ ประสิทธิภาพสูง กำลังไฟฟ้าสูง ผลผลิตพลังงานสูง และความน่าเชื่อถือสูง
โซลูชันพลังงานอัจฉริยะแบบบูรณาการ
นอกเหนือจากเทคโนโลยีโมดูลชั้นนำของอุตสาหกรรมแล้ว โซลูชันพลังงานอัจฉริยะแบบบูรณาการของทรินา โซลาร์ ยังนำความเรียบง่าย นวัตกรรม และประสิทธิภาพมาสู่การพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ โดยโซลูชันดังกล่าวผสานรวมโมดูล ระบบติดตามดวงอาทิตย์ และระบบกักเก็บพลังงานเข้าด้วยกัน ช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบของลูกค้าจะมีการบูรณาการ ปลอดภัย และเชื่อถือได้
ทรินา โซลาร์ ยังนำเสนอระบบติดตามดวงอาทิตย์แบบแกนเดี่ยว แวนการ์ด 1พี (Vanguard 1P) ซึ่งเป็นระบบติดตามแบบแถวเดียว มาพร้อมจุดแข็งทางเทคโนโลยีที่รับประกันความน่าเชื่อถือในระดับสูงขึ้น การผลิตไฟฟ้ามากขึ้น ต้นทุนอุปกรณ์ประกอบระบบลดลง และการปรับใช้งานได้มากขึ้น โดยผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลม ซึ่งครอบคลุมการจำลองแบบไดนามิก อยู่กับที่ และความยืดหยุ่นทางอากาศ โดยแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือระดับสูงในการทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้าย นอกจากนี้ แวนการ์ด 1พี ยังสามารถใช้งานร่วมกับโมดูลกำลังสูงพิเศษตั้งแต่ 400 วัตต์ ถึง 700 วัตต์+ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ขณะเดียวกัน ทรินา สตอเรจ ได้จัดแสดงระบบแบตเตอรี่ระดับสาธารณูปโภคแบบโมดูลาร์ "เอเลเมนตา" ซึ่งใช้ทรินาเซลล์ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง และมีวงจรการใช้งานยาวนานเป็นพิเศษกว่า 12,000 ครั้ง นอกจากนี้ ทรินา สตอเรจ ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มระบบบริหารจัดการพลังงาน EMS ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการควบคุม ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนในระดับสูงสุด รวมถึง E?MS โซลูชันซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ครอบคลุม ซึ่งผสานรวมกับระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ระดับกริดไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น เพื่ออำนวยความสะดวกในการควบคุม การตรวจสอบ และการถ่ายทอดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะนี้ ทรินา สตอเรจ กำลังเข้าสู่ระยะของการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้าว่าจะมีความจุของระบบกักเก็บพลังงานรวม 12 กิกะวัตต์ชั่วโมง ณ สิ้นปี 2566 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 25 กิกะวัตต์ชั่วโมง ภายในไตรมาส 2 ปี 2567
ทรินาฮับ เว็บไซต์พอร์ทัลครบวงจรสำหรับพันธมิตร เปิดตัวอย่างเป็นทางการในอเมริกาเหนือ
ทรินาฮับ ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน RE+ โดยเป็นเว็บไซต์พอร์ทัลครบวงจรสำหรับพันธมิตร ซึ่งเชื่อมโยงทรินากับลูกค้าและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า ปรับปรุงความสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ และพัฒนาระบบนิเวศการตลาดดิจิทัลของพันธมิตรด้วยแหล่งข้อมูลออนไลน์ สามารถลงทะเบียนและเริ่มเดินทางไปกับเราได้ที่ hub.trinasolar.com
ทั้งนี้ ทรินา โซลาร์ จัดแสดงสินค้าที่บูธหมายเลข 2138 ใน Sands Level 2 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม Venetian Convention & Expo Center Caesars Forum ในลาสเวกัส ระหว่างวันที่ 11-14 กันยายน 2566
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2209836/RE_2023.jpg