ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด : เศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว คาดธปท. คงดอกเบี้ยนโยบาย

จันทร์ ๑๘ กันยายน ๒๐๒๓ ๐๙:๕๑
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจไทยจะเติบโตร้อยละ 4.3 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 เนื่องจากภาพรวมด้านการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ประกอบกับนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปอย่างน้อยถึงสิ้นปี 2568 โดยอาจมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเป็นตัวแปร

"เศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว แม้ว่าในระยะที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้รัฐบาลใหม่แล้ว เราคาดว่าการบริโภคภายในประเทศจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามมาด้วยการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้น" ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าว

ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยกว่า 17.5 ล้านคน โดยเฉลี่ยมีการเดินทางเข้ามาเดือนละ 2.2 ล้านคน เนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 3 ล้านคนตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนนี้ ทำให้ทั้งปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 30 ล้านคน ทั้งนี้ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวนนักท่องเที่ยวเคยอยู่ในระดับเกือบ 40 ล้านคนในปี 2562

เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่หลายประการ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจึงปรับลดคาดการณ์ดุลบัญชีเดินสะพัดจากร้อยละ 3.6 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ของจีดีพี การขาดดุลปีงบประมาณคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 4.0 ต่อจีดีพี ในปี 2567 จากร้อยละ 3.8 ต่อจีดีพี ในปี 2566

"การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 น่าจะล่าช้า ในขณะที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้จะมีทิศทางอย่างไร จะยังคงเป็นสิ่งที่ต้องมีการติดตามดู" ดร.ทิมกล่าว

สะท้อนจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของประเทศ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2566 ลงจากร้อยละ 4.2 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.3 และคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ร้อยละ 4.2 ในปี 2567 จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 4.5 ด้วยเหตุนี้ จึงมีการปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.3 จากเดิมที่คาดไว้ร้อยละ 1.7 โดยคาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ในปี 2567 จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 1.3 ในขณะที่คงคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปในปี 2566 ที่ร้อยละ 1.4 อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า

"การค่อยๆ ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการคลังและเงินเฟ้อทั่วไปที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงที่ผ่านมาน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ยังไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะยังไม่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า" ดร.ทิมกล่าว

"ถึงกระนั้น อาจจะมีการกลับมาพูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นเร็วกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นโยบายการคลังและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่ชัดเจนกว่านี้น่าจะทำให้เห็นความชัดเจนในทิศทางดอกเบี้ยนโยบายยิ่งขึ้น" - จบ -

เกี่ยวกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เราเป็นกลุ่มธนาคารสากลชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจใน 53 ตลาดที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว และให้บริการลูกค้าในอีก 64 ตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการค้า การลงทุนและการสร้างความมั่งคั่ง ผ่านความหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา และหลักการที่สืบทอดมาและค่านิยมองค์กรของเราสะท้อนอยู่ในพันธกิจของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดที่ว่า Here for good

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจำกัด มหาชน ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในลอนดอนและฮ่องกง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการอ่านบทความจากผู้เชี่ยวชาญ โปรดเยี่ยมชม Insights ได้ที่เว็บไซต์ www.sc.com และติดตามสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้ทาง Twitter, LinkedIn, Instagram และ Facebook

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริหารภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์และการตลาดปิยรัตน์ เศรษฐศิริไพบูลย์ อีเมลล์ [email protected] โทร 0 2724 8024, 094 495 5992

ที่มา: ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ