ปัจจุบัน สยาม เซย์ซอน ได้มีการมอบวงเงินสำหรับธุรกิจไปแล้วมากกว่า 1,000 ล้านบาท และมีการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา 72% โดยที่ผ่านมา สยาม เซย์ซอน ยังร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับร้านวัสดุก่อสร้างในประเทศไทยหลายราย ไม่ว่าจะเป็น โกลบอลเฮ้าส์ (Global House) บุญถาวร (Boonthavorn) ยงเฮ้าส์ (Yong House) ฮาร์ดแวร์เฮาส์ คอร์ปอเรชั่น (Hardware House Corporation) และอื่น ๆ ในกลุ่มร้านวัสดุก่อสร้างกระจายไปทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าของร้านวัสดุก่อสร้างให้มีวงเงินและเครดิตในการซื้อสินค้าไปขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
"เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล มีความมุ่งมั่นที่จะเป็น 'A Trusted International Supply Chain Partner' ให้กับคู่ธุรกิจ ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นจัดการซัพพลายเชนให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โซลูชันด้านการเงินของ สยาม เซย์ซอน เป็นบริการที่มาเติมเต็มภาพความต่อเนื่องของการจัดการซัพพลายเชนได้ครบวงจรและสมบูรณ์มากขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำธุรกิจต่างประเทศของเรามากกว่า 40 ปี ทำให้เรามีความเข้าใจลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม และลูกค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง ในการบริหารธุรกิจที่และซัพพลายเชนมีความเฉพาะตัว จึงออกมาเป็นโมเดลธุรกิจอย่าง สยาม เซย์ซอน ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มศักยภาพของผู้ประกอบการให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ" คุณอบิจิต ดัตต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด
นอกจากนี้ คุณจิรพันธ์ สกุลวงศ์ - กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม เซย์ซอน จำกัด ยังกล่าวเสริมว่า "แนวโน้มการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศไทยปี 2566 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 1.48 ล้านล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2565 ส่งผลให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมดังกล่าวจะต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านการเงินที่จะต้องใช้ในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับการจัดการธุรกิจ เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพทางการเงิน ให้มีความสามารถด้านการแข่งขันในช่วงที่อุตสาหกรรมเติบโต ที่ผ่านมาเราได้ให้เครดิตกับลูกค้ากลุ่มธุรกิจมาในหลายอุตสาหกรรม ทำให้เรามีความเข้าใจลูกค้าว่ามีอุปสรรคในการบริหารสภาพคล่องของธุรกิจอย่างไร ในประเทศไทยมีผู้ประกอบการอีกมากมายที่มีศักยภาพในการเติบโต แต่มีความท้าทายในการขอวงเงินขยายธุรกิจกับโซลูชั่นการเงินแบบเดิม สยาม เซย์ซอน จึงมีความมุ่งหวังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Ecosystem ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น"
สยาม เซย์ซอน มีประสบการณ์และมีความเข้าใจธุรกิจ B2B ที่หลากหลาย จึงมีเป้าหมายที่จะขยายโซลูชันทางการเงินไปยังกลุ่มธุรกิจสินค้าวัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรม อุตสาหกรรมรถยนต์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมกระดาษและอาหาร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ลูกค้าสะดวกในการใช้งาน ผ่านแอพพลิเคชั่นที่ทำงานแบบ real-time และมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญคอยประเมิน และให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้บริการให้สามารถก้าวข้ามอุปสรรคทางสภาพคล่องในการทำธุรกิจไปได้ สนใจสมัครใช้บริการเซย์ซอนเครดิต (Saison Credit) วงเงินสำหรับซื้อสินค้าและขยายธุรกิจ วงเงินปลอดดอกเบี้ย 45-60 วัน ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน พร้อมบริการผ่อนชำระ 3-6 เดือน หรือบริการสินเชื่อเพื่อธุรกิจ (Business Loan) ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท
ที่มา: เอสซีจี