เต็ดตรา แพ้ค จัดงานสัมมนา "INNOVATION STARTS HERE" เปิดโลกนวัตกรรม ปูทางสู่อนาคตแห่งอุตสาหกรรมอาหาร

เสาร์ ๓๐ กันยายน ๒๐๒๓ ๒๒:๔๐
เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์และกระบวนการผลิตอาหารชั้นนำของโลก จัดงานสัมมนาภายใต้ธีม "Innovation Starts Here" นำเสนอนวัตกรรมเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรมอาหารยุคใหม่ งานกิจกรรมระดับเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำทางความคิดและโซลูชันนวัตกรรมของเต็ดตรา แพ้ค ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในกลุ่มผู้นำในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่อนาคตอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย

ภาคธุกิจอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทยมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตราว 5.25% (ในช่วง พ.ศ. 2566-2571) ซึ่งจะส่งผลให้มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 87,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2571* การเติบโตเช่นนี้ยิ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้นวัตกรรมในการสนับสนุนและขับเคลื่อนภาคธุรกิจนี้ รายงานชิ้นล่าสุดยังระบุด้วยว่า ผู้บริโภคต่างแสวงหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีความยั่งยืน และคำนึงถึงสุขภาพผู้คนมากขึ้น**

ข้อมูลของ McKinsey ผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาการจัดการระดับโลก ระบุว่าการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมถือเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงและผันผวนอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน งาน "Innovation Starts Here" จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้นำอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทยสามารถยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน พัฒนาแนวคิดด้านความยั่งยืน และรักษาความเชื่อมั่นในการควบคุมคุณภาพซึ่งเป็นแกนหลักของการดำเนินงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค

ในระหว่างการจัดงาน เต็ดตรา แพ้ค ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของอาหารผ่านเครือข่ายความเชี่ยวชาญทั่วโลกแก่ผู้เข้าร่วมงาน พร้อมการสาธิตโซลูชันหลักในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเต็ดตรา แพ้ค โดยเน้นย้ำถึงคุณค่าของนวัตกรรมแบบครบวงจร

คุณรัตนศิริ ติลกสกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด

งานครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการนำเสนอประเด็นสำคัญเพื่อการกระตุ้นแรงบันดาลใจโดย คุณรัตนศิริ ติลกสกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้เน้นย้ำถึงแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกรวมถึงความท้าทายในอนาคตอันใกล้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงปี พ.ศ. 2573

"นวัตกรรมของเต็ดตรา แพ้ค หมายถึงการเสริมศักยภาพให้กับลูกค้าของเราให้บรรลุเป้าหมายในมาตรฐานระดับสูงด้านความปลอดภัยของอาหาร และมีความพร้อมในการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพให้กับผู้คนทั่วโลก ซึ่งเราภูมิใจที่ได้สนับสนุนให้ลูกค้าเลือกโซลูชันที่เหมาะสมและตอบโจทย์ธุรกิจ ซึ่งภายในงานครั้งนี้ เราได้เห็นแล้วว่าอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารได้เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ผลิตมากมาย และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับผู้นำอุตสาหกรรมและลูกค้าของเราในประเทศไทยเพื่อคว้าโอกาสการเติบโตร่วมกัน เราทุ่มเทเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายต่างๆ ของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน และร่วมสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าแต่ละรายเพื่ออนาคตที่ดีกว่าต่อไป"

โดยภายในงานยังมีช่วงเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจากบริษัทเอเจนซีชื่อดัง 4 ราย ได้แก่ Ipsos, Kantar, Mintel, และ NielsenIQ ที่มานำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์อย่างมาก เพื่อชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มและนวัตกรรมในอนาคตเหล่านี้ที่จะสามารถพลิกโฉมภาคธุรกิจของประเทศไทยได้

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเต็ดตรา แพ้ค ที่มุมกิจกรรมทั้งสามส่วนและโซนต่างๆ เพื่อรับทราบถึงข้อมูลสำคัญและประสบการณ์ตรงเพิ่มเติม ดังนี้

Innovate for Growth (การสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อโอกาสการเติบโต): นำเสนอข้อมูลโซลูชันที่สามารถช่วยพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย นับตั้งแต่ไอศกรีมไปจนถึงผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ในการสร้างโอกาสและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาด ยกตัวอย่างเช่น ระบบการตกแต่งผลิตภัณฑ์ไอศกรีมซึ่งมอบทางเลือกในการแต่งหน้าไอศกรีมที่แตกต่างกันได้ถึงแปดรูปแบบ ในขณะที่ระบบการสกัดของเต็ดตรา แพ้ค (Tetra Pak(R) Extraction System) สำหรับผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์อาหารแบบเกล็ดและธัญพืช สร้างรสชาติที่ยอดเยี่ยมสำหรับวัตถุดิบประเภทถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต ข้าว และถั่วต่างๆ พร้อมทั้งยังพูดถึงเครื่องบรรจุความเร็วสูง Tetra Pak(R) E3/Speed Hyper และเทคโนโลยี eBeam สำหรับการฆ่าเชื้อบนวัสดุบรรจุภัณฑ์โดยใช้ลำแสงอิเล็กตรอน ช่วยให้ลูกค้ามีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำ ถือเป็นนวัตกรรมที่คุ้มค่าด้านราคาและยังสร้างความได้เปรียบด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

Design for Sustainability (การออกแบบโดยยึดหลักความยั่งยืน): เรียนรู้เพิ่มเติมถึงโซลูชันของเต็ดตรา แพ้ค ที่สามารถส่งเสริมความยั่งยืนในการดำเนินการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่การลดขยะอาหารในระหว่างการผลิต ไปจนถึงการเพิ่มการใช้วัสดุจากทรัพยากรทดแทนได้ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับวัสดุหมุนเวียนในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ พร้อมแนวทางสนองตอบความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า รวมไปถึงการสร้างการหมุนเวียนวัสดุที่มั่นคงปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอโซลูชันกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน ทั้งในเรื่องการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ การประหยัดพลังงาน และการรักษาพลังงานความร้อน ตลอดจนการมองโจทย์ร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในภาพรวม พร้อมยกตัวอย่างถึงโซลูชันอุปกรณ์ Tetra Pak Processing Key Components ที่เป็นตัวพลิกเกมการผลิตด้วยคุณสมบัติเด่นในการเพิ่มผลผลิตและลดการใช้พลังงาน

Connect for the Future (การเชื่อมต่อเพื่ออนาคต): เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถยกระดับศักยภาพของผู้ปฏิบัติงาน เพิ่มความคล่องตัว รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพและกำลังการผลิต ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติแบบบูรณาการ มีการนำเสนอภาพรวมของระบบอัตโนมัติ การเปลี่ยนแปลงงานสู่ระบบดิจิทัล การใช้ One Remote Support สนับสนุนจากระยะไกล ระบบ Asset Health Monitoring ที่ช่วยมอนิเตอร์การทำงานของเครื่องจักร และ Connected workforce ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์จากระบบอย่างง่ายดาย ซึ่งจะเป็นตัวเร่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจและการดำเนินงานของโรงงานการผลิตได้ ผู้เชี่ยวชาญของเต็ดตรา แพ้ค ยังแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถช่วยสนับสนุนผู้ผลิตในการดำเนินงานเชิงรุกบนแนวคิดที่ยั่งยืนได้จริง

งานสัมมนา "Innovation Starts Here" ครั้งนี้ ของเต็ดตรา แพ้ค ตอกย้ำถึงสถานะของบริษัทในฐานะผู้จัดหาโซลูชันแบบครบวงจรในด้านนวัตกรรมสำหรับภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งนวัตกรรมโซลูชันของเต็ดตรา แพ้ค สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและส่งเสริมความยั่งยืน ทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าจะสร้างความโดดเด่นและเติบโตได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

คุณรัตนศิริ กล่าวว่า "ในนามของทีมงานเต็ดตรา แพ้ค เราขอขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรทุกท่าน ที่มาร่วมสำรวจอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยไปพร้อมกับเรา เราคาดหวังว่าบทสนทนาที่เริ่มต้นกันในวันนี้จะถูกนำไปต่อยอด เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมและนำมาซึ่งประโยชน์แก่ผู้บริโภคชาวไทยต่อไป"

ที่มา: มิดัส พีอาร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version