ทีเอ็มบีธนชาต ประกาศปรับดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ย้ำส่งเสริมการออมด้วยบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย ตอบโจทย์ครบทุกกลุ่มลูกค้า พร้อมเดินหน้าดูแลลูกค้าสินเชื่อแบบยั่งยืน

จันทร์ ๐๒ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๑๕:๔๘
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ สอดคล้องตามทิศทางของภาวะเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัว ย้ำธนาคารให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการออมเงิน ด้วยบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งเงินฝากประจำระยะสั้น และระยะยาว โดยปรับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 2.25% และ 5.00% ต่อปีตามลำดับ พร้อมปรับบัญชีออมทรัพย์ ทีทีบี มีเซฟ ที่เหมาะสมกับลูกค้าทุกคนส่งเสริมวินัยการออม ให้ดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัส 2.20% ต่อปีตั้งแต่บาทแรกที่ฝาก ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปถึง 8.8 เท่า ด้านเงินกู้ประกาศพร้อมดูแลลูกค้าสินเชื่อทุกกลุ่มเน้นแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 2.50% ต่อปี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดรับกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าว และเป็นไปตามภาวะทิศทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในระยะยาว  ธนาคารได้พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้งลูกค้าบุคคล และนิติบุคคล ทั้งนี้ยังเน้นส่งเสริมให้ลูกค้าออมเงินเพิ่มมากขึ้นผ่านบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกประเภท ทั้งบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัญชีเงินฝากประจำระยะสั้น และระยะยาว พร้อมมอบรูปแบบการจ่ายดอกเบี้ยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า รวมถึงยังเน้นย้ำและให้ความสำคัญกับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน โดยธนาคารมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนี้ 

ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลูกค้าบุคคล

  • สำหรับลูกค้าที่ชอบการออมระยะสั้น บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ทีทีบี ดอกเบี้ยด่วน 12เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.45% เป็น 2.25% ต่อปี (รับดอกเบี้ยทั้งก้อนไปใช้ก่อน ใน 7 วันนับจากวันที่ฝากเงิน) โดยมีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2566 
  • สำหรับลูกค้าที่ชอบการออมระยะยาว บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุก ๆ 6 เดือน และลูกค้าได้รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดอยู่ที่ 5.0% ต่อปี ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มุ่งเน้นการออมในบัญชีดอกเบี้ยสูงแต่ยังต้องการสภาพคล่อง เพราะถอนได้ก่อนกำหนด ไม่ถูกลดดอกเบี้ย และบัญชีเงินฝากประจำทั่วไป ทีทีบี ประเภท 24 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.35% เป็น 1.70% ต่อปี พร้อมรับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
  • สำหรับลูกค้าเสริมวินัยเก็บออม บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล ทีทีบี มีเซฟ ที่ไม่ต้องฝากประจำ ดูดอกเบี้ยสะสมได้ทุกวัน ปรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดรวมโบนัสเพิ่มขึ้นเป็น 2.20% ต่อปีสำหรับยอดเงินฝากตั้งแต่บาทแรกถึง 100,000 บาท ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปถึง 8.8 เท่า โดยมีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 

ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลูกค้านิติบุคคล มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ดังนี้

  • สำหรับลูกค้าที่กำหนดระยะเวลาการฝากได้ชัดเจน

o  บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป ทีทีบี ประเภท 24 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.80% เป็น 2.40% ต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้านิติบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สถาบันการเงินและ 2.10% ต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงิน 

o  บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป ทีทีบี ประเภท 36 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.80% เป็น 2.50% ต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้านิติบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สถาบันการเงินและ 2.20% ต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงิน

  • สำหรับลูกค้าที่ต้องการระยะเวลาการฝากที่ยืดหยุ่น บัญชีเงินฝากประจำรูปแบบพิเศษ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ ประเภท 24 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดอยู่ที่ 2.40% ต่อปี โดยปรับอัตราดอกเบี้ยช่วงเดือนที่ 1-6 เพิ่มขึ้น 0.40% เป็น 1.50% ต่อปี  ช่วงเดือนที่ 7-12 เพิ่มขึ้น 0.20% เป็น 1.80% ต่อปี  ช่วงเดือนที่ 13-18 เพิ่มขึ้น 0.40% เป็น  2.10% ต่อปี  และช่วงเดือนที่ 19-24 เพิ่มขึ้น 0.60% เป็น 2.40%  ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากสภาพคล่องส่วนเกิน แต่ต้องการความยืดหยุ่นของระยะเวลาการฝาก ถอนได้ก่อนกำหนด โดยไม่ถูกลดดอกเบี้ย

ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.25% สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี MLR (Minimum Loan Rate) อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี MOR (Minimum Overdraft Rate) และอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate) โดยอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปเช่นกัน

"จากสถานการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของกนง. เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาวป้องกันการสะสมความไม่สมดุลทางการเงินที่เกิดจากสภาวะดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน  และรักษาเงินเฟ้อในระยะยาวให้อยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืน ทีทีบีจึงมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อเป็นการขานรับนโยบายดังกล่าว  อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงให้การสนับสนุน ดูแลช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่อ่อนไหวและมีภาระหนี้ที่สูงขึ้น โดยยังคงแนะนำให้ลูกค้าแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนผ่านโซลูชันรวบหนี้ และโซลูชันโอนยอดหนี้เพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำลง ช่วยลดภาระดอกเบี้ย เพิ่มสภาพคล่อง ควบคู่กับแนะนำการให้ความรู้ทางการเงิน พร้อมกับการสนับสนุนการออมเงินเพื่อเป็นการสร้างรากฐานชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และอนาคต ผ่านบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลายของทีทีบี" นายปิติ กล่าวสรุป 

ที่มา: ชมพีอาร์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ