'ซีเค พาวเวอร์' คว้าสองรางวัลระดับโลก "ผู้นำองค์กรยอดเยี่ยม" และ "ต้นแบบกลยุทธ์ความยั่งยืนยอดเยี่ยม" จาก The European Global Business Awards 2023

พฤหัส ๐๕ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๑๕:๔๗
"ซีเค พาวเวอร์ มุ่งมั่นและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการสนับสนุนประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนให้ก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตไฟฟ้าเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)

บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) คว้าสองรางวัลใหญ่ระดับโลกด้านความยั่งยืน (ประเภทกลุ่มธุรกิจพลังงาน) จาก The European Global Business Awards 2023 ประเทศอังกฤษ ได้แก่ รางวัลผู้นำองค์กรด้านความยั่งยืนยอดเยี่ยม ให้กับนายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (Best Leadership in the Sustainable Energy Industry: Mr. Thanawat Trivisvavet - Thailand) และรางวัลองค์กรต้นแบบกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนยอดเยี่ยม (Best Sustainable Development Strategy, Energy Sector - Thailand)

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ซีเค พาวเวอร์ รู้สึก เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทาง The European นิตยสารธุรกิจชั้นนำของประเทศอังกฤษ ได้เล็งเห็นถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของกลุ่มซีเค พาวเวอร์ คือ การเป็นองค์กรพลังงานสะอาดสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์ระยะยาวด้านความยั่งยืน โดยได้นำเอาแนวคิดเรื่อง ESG (Environmental, Social and Governance) นี้ มาพัฒนาเป็นแผนการดำเนินงาน 5 ปี สู่ความยั่งยืน (พ.ศ. 2565-2569) ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ ซี (C) เค (K) พี (P) โดยครอบคลุมมิติ สิ่งแวดล้อม สังคม ชุมชน บรรษัทภิบาล และเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ได้แก่ C: Clean Electricity การมุ่งมั่นในการผลิตไฟฟ้าสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม K: Kind Neighbor มุ่งมั่นในการเคารพสิทธิมนุษยชนตลอดจนดูแลสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน และ P: Partnership for life คือ การบริหารงานอย่างเป็นธรรมพร้อมความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ

นายธนวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ซีเค พาวเวอร์ ได้ขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง โดยเรามีทิศทางการดำเนินธุรกิจที่สะท้อนถึง ความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อมุ่งสร้างความสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจ การรักษาสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับกิจการที่ดี พร้อมกันนี้ยังได้ปลูกฝังให้พนักงานทุกคนมี DNA ของ การเป็นผู้นำองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านพลังงานหมุนเวียนในการร่วมสร้างสังคมคุณภาพที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ SDGs เพื่อเพิ่มการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีส่งต่อไปยังชุมชนต่างๆ ทั้งในประเทศ และ สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้ง 2 รางวัลข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจและมุ่งมั่นของผู้บริหารและพนักงานทุกคนในการร่วมสร้างความยั่งยืนและความมั่นคงทางพลังงานเพื่อยกระดับการทำงานให้เกิดการเติบโตขององค์กรและสังคมต่อไป

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า "ซีเค พาวเวอร์ พร้อมสนับสนุนและร่วมส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานด้วยการพัฒนาและติดตามดูแลโรงไฟฟ้าต่างๆ ของเราให้มีการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งมอบไฟฟ้าได้ตามต้องการ สอดคล้องกับแผน PDP หรือแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Thailand Power Development Plan) ที่มุ่งสร้างเสถียรภาพทางพลังงาน สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยการสร้าง Ecosystem ให้พร้อมรองรับการลงทุนใหม่ๆ จากภายในประเทศและนานาชาติ และคำนึงถึงการผลิตและส่งมอบไฟฟ้าให้กับประชาชน รวมถึง ภาคส่วนต่างๆ ได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง (Blackout) ดังเช่นที่หลายประเทศประสบ"

ซีเค พาวเวอร์ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนจากเดิม 93% เป็น 95% หรือ 4,800 เมกะวัตต์ ภายในปี พ.ศ. 2567 โดยการลงทุนโครงการใหม่และกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดจะมาจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ และพลังงานลม ในปี พ.ศ. 2565 โรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทสามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดส่งให้ประเทศไทยได้ กว่า 9.5 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) คิดเป็น 5% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศ และคิดเป็นกว่า 18% ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในประเทศทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2566 จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 723,674 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) และล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน สามารถทำได้ที่ระดับ 354,851 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) ซึ่งดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ บริษัทจะยังคงเดินหน้ารักษามาตรฐานการดำเนินงานนี้ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการลดการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรภายในองค์กร อาทิ การเพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนเพิ่มการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายในองค์กรจากเดิม 88% เป็น 92% ภายในสิ้นปีนี้

The European เป็นนิตยสารชั้นนำด้านธุรกิจจากประเทศอังกฤษ และให้ความสำคัญกับการเสนอองค์กรตัวอย่างที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างโดดเด่น แม้จะมีความท้าทายมากขึ้นทั่วโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการดำเนินงานด้าน ESG โดยได้มีการจัดการประกาศผลรางวัล The European Global Business Awards อย่างต่อเนื่องสู่ปีที่ 9 ในปัจจุบัน

ที่มา: บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ