การท่องเที่ยวเกาหลี เร่งขับเคลื่อน Smart Tourism เต็มสูบ ผนึกไทยลุยขยายฐานเที่ยวเกาหลี เปิดประตูสู่เซาท์อีสต์เอเชีย

ศุกร์ ๐๖ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๐๙:๓๔
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) นำทัพสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยวผนึกความร่วมมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทย และเวนเจอร์ แคปิทัล ชั้นนำของไทย จัด ฟอรั่มความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเกาหลี-ไทย "Korea-Thailand Tourism Startup Cooperation Forum" เดินหน้าลงนามข้อตกลงทางธุรกิจ ผลักดัน Smart Tourism ของเกาหลี เตรียมพร้อมขยายฐานการท่องเที่ยวเกาหลีสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายเจมส์ ลี รองประธาน องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 65 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเกาหลี-ไทย KTO จึงร่วมกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) และอินโนสเปซ ไทยแลนด์ จัด Korea-Thailand Tourism Startup Cooperation Forum เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และสร้างฐาน นวัตกรรมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผ่านความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยว และสตาร์ตอัป

Korea-Thailand Tourism Startup Cooperation Forum นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งหลังจาก KTO ได้ร่วมกับ ททท. กำหนดให้ปี 2566-2567 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวระหว่างเกาหลีและไทย เพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศก้าวเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และนำไปสู่การส่งเสริมยูนิคอร์นด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้ง 2 ประเทศได้ร่วมกันจัดงาน Korea Everywhere มหกรรม การท่องเที่ยวเกาหลีครั้งยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทย เพื่อฉลองปีแห่งการท่องเที่ยวเกาหลี-ไทย โดยชวนคนไทยมาอัปเดตสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ในเกาหลีผ่านโลก Metaverse ในแอปพลิเคชัน Zepeto

สำหรับไฮไลต์สำคัญในงาน Korea-Thailand Tourism Startup Cooperation Forum คือ การลงนามข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างเกาหลีและไทย ได้แก่ ข้อตกลงทางธุรกิจสำหรับนวัตกรรมดิจิทัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเกาหลี-ไทย ระหว่าง Yanolja สตาร์อัปแพลทฟอร์มด้านการท่องเที่ยวของเกาหลี และสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว และข้อตกลงทางธุรกิจเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในเกาหลีผ่านช่องทรู และไลฟ์คอมเมิร์ส ระหว่าง LaLa Station แพลทฟอร์มด้านไลฟ์คอมเมิร์สและอีคอมเมิร์ส และทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อช่วยในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวและบริการ เช่นการจัดกระบวนการทางธุรกิจของโรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่นการจัดการห้องพัก การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า บริการช่วยทำการตลาด ขยายต่อสู่อีคอมเมิร์ซสำหรับการท่องเที่ยว เป็นต้น รวมไปถึง พัฒนาระบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์บนคลาวด์เพื่อช่วยการจัดกระบวนการทางธุรกิจของโรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่นการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า

"อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็ว เราเล็งเห็นว่าการระดมทุน และหาพันธมิตรเป็นสิ่งจำเป็น การจัดทำข้อตกลงทางธุรกิจครั้งนี้นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะผลักดัน การท่องเที่ยวแบบ Smart Tourism ของเกาหลีให้เติบโต และเรายังวางแผนที่จะร่วมมือกับผู้ประกอบ การท่องเที่ยว และนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก" นายเจมส์ ลี กล่าว

นอกจากการลงนามข้อตกลงทางธุรกิจแล้ว ภายในงานฟอรั่มยังได้จัดกิจกรรม K-Tourism Startup IR เพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปเกาหลีได้เจรจาหาผู้ร่วมทุน สร้างเครือข่ายธุรกิจ ขยายฐานลูกค้าด้าน Smart Tourism โดยมีสตาร์ตอัปจากเกาหลี และนักลงทุนจากไทย เช่น CP Group และ K-Bank รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมงาน เช่น ททท. และสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว

"การที่องค์กรยักษ์ใหญ่ของไทยมาร่วมกิจกรรม K-Tourism Startup IR เป็นบทพิสูจน์ว่าองค์กรด้านเทคโนโลยี และสตาร์ตอัปด้านการท่องเที่ยวของเกาหลี มีความน่าสนใจ ซึ่งสตาร์ตอัปบางรายได้มีการเจรจาเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกันแล้ว งานนี้ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้สตาร์ตอัปเกาหลี จากที่เคยเป็นเพียงธุรกิจในประเทศ ปัจจุบันสามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้ และยังคาดว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวของเกาหลีจะสามารถเติบโตเป็นบริษัทระดับโลกได้ในอนาคต" นายเจมส์ ลี กล่าว

นายเจมส์ ลี กล่าวเพิ่มเติมถึงการท่องเที่ยวแบบ Smart Tourism ว่า เป็นเทรนด์การท่องเที่ยวมิติใหม่ที่เกาหลีพัฒนาขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้บริการด้านการท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวเกาหลีในปัจจุบันมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลวันที่ 25 กันยายน 2566 พบว่าตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงเดือนกันยายนมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเกาหลีแล้ว 7.49 ล้านคน เพิ่มขึ้น 60% จากปี 2562 โดยเป็นนักท่องเที่ยวไทยประมาณ 260,000 คน โดยมี อัตรา การฟื้นตัว 69% เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งถือว่าอยู่ในเชิงบวก ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปีนี้ ได้แก่ หอคอยนัมซานในกรุงโซล ป้อมปราการฮวาซองในเมืองซู วอน จังหวัดคยองกี เกาะนามิในจังหวัดคังวอน หมู่บ้านฮันอกในจอนจู และสวนสนุกแทจงแดในพูซาน

"เรามีแผนที่จะดึงนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเกาหลีให้มากที่สุด เราตั้งเป้าที่จะขยายฐานการท่องเที่ยวเกาหลีสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกำหนดให้ปีนี้และปีหน้าเป็น "ปีแห่งการมาเยือนเกาหลี" และได้จัดแคมเปญ "100 กิจกรรมการท่องเที่ยวเกาหลี" ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมเกาหลี โดยตั้งเป้าว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเกาหลี 10 ล้านคน ส่วนในปี 2567 คาดว่าสถานการณ์จะฟื้นตัวเต็มที่ กลับไปสู่สภาวะก่อนเกิดโควิด ซึ่งมีนักเที่ยวอยู่ที่ 17.5 ล้านคนต่อปี" นายเจมส์ ลี กล่าว

ที่มา: องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO