เธอเริ่มมีความสนใจในประเทศจีนสมัยเรียนชั้นมัธยมปลายในประเทศบราซิล โดยเธอเข้าเรียนวิชาภาษาจีนและเริ่มชื่นชอบอาหารจีน
ในปี 2562 อามิริสเป็นนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยหนานไค และหลงใหลในศิลปะการแสดง "จิงตง ต๋ากู่" (Jingdong Dagu) (แปลว่ากลองปักกิ่งตะวันออก) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติของจีน ทั้งนี้ "จิงตง ต๋ากู่" เป็นศิลปะพื้นบ้านที่ประกอบด้วยการตีกลองและการร้องเพลงพื้นเมืองโดยใช้ภาษาถิ่นของปักกิ่งตะวันออก
อามิริสกลายเป็นลูกศิษย์และผู้ช่วยในการแสดงของหวัง เหวินเล่ย (Wang Wenlei) ซึ่งเป็นศิลปิน "จิงตง ต๋ากู่" ส่งผลให้เธอได้สัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนโบราณอย่างแท้จริง และหวังว่าจะได้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับบราซิล
"ฉันคิดว่านี่คือการแลกเปลี่ยนและสืบสานวัฒนธรรม เราชื่นชมซึ่งกันและกันและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน นี่คือสิ่งที่ชาวจีนเรียกว่าการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรม" อามิริสให้สัมภาษณ์กับไชน่า มีเดีย กรุ๊ป (China Media Group)
ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุมระดับชาติที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานด้านการสื่อสารสาธารณะและวัฒนธรรม พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การปฏิบัติตามแนวทางการเปิดกว้างและการไม่แบ่งแยก ตลอดจนส่งเสริมให้ยึดมั่นในหลักการพื้นฐานไปพร้อมกับการบุกเบิกสิ่งใหม่ ๆ
สร้างความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
จีนได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม พร้อมกับเดินหน้าส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ระหว่างอารยธรรมจีนกับอารยธรรมต่างประเทศ
ยกตัวอย่างนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีอาคารประวัติศาสตร์รวม 3,075 แห่ง ถนนและตรอกที่ได้รับการคุ้มครอง 397 แห่ง ย่านที่ได้รับการคุ้มครอง 250 แห่ง รวมถึงพื้นที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 44 แห่ง นับเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาของนครแห่งนี้
นอกจากนี้ วัฒนธรรมเมืองยังช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย โดยในปี 2565 ผลผลิตรวมของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเซี่ยงไฮ้ คิดเป็นสัดส่วนราว 13% ของจีดีพีของเซี่ยงไฮ้
ในปี 2565 และ 2566 มีการจัดนิทรรศการต่างประเทศหลายรายการตามพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ต่าง ๆ ในท้องถิ่น โดยเป็นการนำเสนอผลงานศิลปะที่หลากหลายและสวยงามสู่สายตาชาวจีน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันและการแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรมอีกด้วย
การทัศนศึกษาด้านวัฒนธรรมได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดึงดูดผู้คนจำนวนมากมายังพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศจีนตลอดฤดูร้อนปีนี้
เพื่อตอบสนองต่อปรากฏการณ์ที่ผู้คนหลั่งไหลไปยังพิพิธภัณฑ์ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน พิพิธภัณฑ์ 46 แห่งในกรุงปักกิ่งจึงเปิดให้บริการทุกวันในเดือนสิงหาคม จากปกติที่หยุดวันจันทร์ ตามประกาศของสำนักมรดกทางวัฒนธรรมเทศบาลกรุงปักกิ่ง
กัว ซือเข่อ (Guo Sike) ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ขงจื๊อ ในเมืองฉวีฟู่ มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน ได้กล่าวถึงต้นตอของกระแส "คลั่งไคล้พิพิธภัณฑ์" โดยระบุว่าเป็นเพราะ "ความคลั่งไคล้ในวัฒนธรรมจีนโบราณ" โดยเฉพาะในหมู่คนหนุ่มสาวชาวจีน
"คนรุ่นใหม่มีความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมและรักวัฒนธรรมจีนโบราณอันงดงาม" คุณกัวกล่าว
เพื่อสร้างอารยธรรมจีนยุคใหม่บนจุดเริ่มต้นใหม่ทางประวัติศาสตร์ จีนต้องรักษาความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมและเดินตามเส้นทางของตนเอง ตลอดจนผลักดันประสบการณ์ของจีนให้กลายเป็นทฤษฎีของจีน เพื่อความเป็นอิสระทางปัญญาและการพึ่งพาตนเองได้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวระหว่างการประชุมว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและการพัฒนา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ผู้นำจีนยังกล่าวด้วยว่า งานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการโดยเน้นไปที่ภารกิจใหม่ทางวัฒนธรรม ซึ่งก็คือการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม การสร้างประเทศให้เป็นผู้นำทางวัฒนธรรม และการสน้บสนุนอารยธรรมจีนยุคใหม่ ณ จุดเริ่มต้นใหม่ทางประวัติศาสตร์
การเรียนรู้ร่วมกันและการแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรม
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เคยกล่าวไว้ว่า มีเพียงอารยธรรมที่มีความเชื่อมั่นเท่านั้นที่สามารถอดทน เรียนรู้ และซึมซับอารยธรรมอื่น ๆ พร้อมกับรักษาคุณลักษณะประจำชาติของตนเองเอาไว้
ผู้นำจีนกล่าวในงานเลี้ยงต้อนรับแขกที่เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ณ นครเฉิงตู เมื่อเดือนกรกฎาคม โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการแข่งขันที่มีต่อความก้าวหน้าของอารยธรรมมนุษย์
"อารยธรรมมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ทำให้โลกของเรามีสีสันและมีความหลากหลาย" เขากล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้สนับสนุนค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติ และเขียนบทใหม่ในการสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน
จีนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านมรดกทางวัฒนธรรมกับประเทศต่าง ๆ มากกว่า 20 ประเทศ ตลอดจนดำเนินการคุ้มครองและบูรณะโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม และสร้างความร่วมมือทางโบราณคดีกับประเทศที่เข้าร่วมข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative)
ในระหว่างการประชุมเสวนาว่าด้วยอารยธรรมเอเชีย จีนได้จัดนิทรรศการอารยธรรมเอเชียและรวบรวมสมบัติทางวัฒนธรรมมากกว่า 400 ชิ้น จาก 49 ประเทศ เพื่อนำเสนอเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเอเชียและมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษย์ ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันและการพัฒนาร่วมกันระหว่างอารยธรรม
ในระหว่างการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เรียกร้องให้ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอย่างสร้างสรรค์และการพัฒนาวัฒนธรรมจีนโบราณอันวิจิตรงดงาม ตลอดจนเรียนรู้ร่วมกันและแลกเปลี่ยนกันระหว่างอารยธรรม
https://news.cgtn.com/news/2023-10-08/Xi-makes-instruction-on-work-of-public-communication-culture-1nJOviGD5x6/index.html