ธ.เกียรตินาคินภัทร ร่วมปฏิวัติกระบวนการขอสินเชื่อบ้านครั้งใหญ่ ใช้ข้อมูลเครดิตสกอริ่งประกอบการพิจารณาเป็นครั้งแรกของไทย รู้ผลแม่นยำ-รวดเร็วขึ้น 60%

พุธ ๑๑ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๑๒:๕๗
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ร่วมปฏิวัติกระบวนการขอสินเชื่อบ้าน ด้วยความร่วมมือกับ บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) และบริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) ใช้ข้อมูล 'เครดิตสกอริ่ง' หรือ การประเมินทางสถิติเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ตามนัดของผู้ขอสินเชื่อ ประกอบการพิจารณาเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยมีเทคโนโลยีของ ไอคอน เฟรมเวิร์ค ในการนำเสนอสินเชื่อของธนาคารให้กับผู้ขอสินเชื่อ ร่วมด้วยเทคโนโลยีการพิสูจน์ตัวตนทางดิจิทัล ส่งผลให้การพิจารณาสินเชื่อมีความแม่นยำและความรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม 60% ช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของผู้ขอสินเชื่อและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนยกระดับบริการทางการเงินของธนาคารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่างธนาคารเกียรตินาคินภัทร ไอคอน เฟรมเวิร์ค เครดิตบูโร และ NDID โดยธนาคารเกียรตินาคินภัทรได้ร่วมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมของบริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค ในกระบวนการอนุมัติสินเชื่อบ้านผ่านระบบ ICON Digital Mortgage ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีระบบ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ เพื่อนำเสนอสินเชื่อของธนาคารให้กับผู้ขอสินเชื่อที่เหมาะสม รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างธนาคารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เครดิตบูโร และ NDID ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีมาตรฐาน และความปลอดภัย เพื่อการตรวจสอบเครดิตสกอริ่ง และยืนยันตัวตนของผู้ขอสินเชื่อได้แบบ Real Time และมีความแม่นยำ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการขอสินเชื่อ ตลอดจนช่วยลดปัญหายอดปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ให้กับผู้พัฒนาอสังหาฯ

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปัจจุบันผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่มีข้อมูลเครดิตลูกค้า ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร โดยการดำเนินการขอสินเชื่อเดิมอาจกินระยะเวลา 1-2 อาทิตย์ นอกจากนี้ ด้วยระดับหนี้ครัวเรือนปัจจุบันที่สูงกว่า 90% ทำให้ลูกค้าโดนปฏิเสธมากกว่า 60% ส่งผลให้ผู้ขอสินเชื่อและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีต้นทุนค่าเสียโอกาสจำนวนมาก

"ธนาคารให้ความสำคัญกับการยกระดับกระบวนการให้บริการทางการเงินให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการขอสินเชื่อบ้าน ซึ่งถือเป็นสินเชื่อที่มีมูลค่าสูงและมีความสำคัญต่อชีวิตของลูกค้าเป็นอย่างมาก ธนาคารจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญอย่างไอคอน เฟรมเวิร์ค เครดิตบูโร และ NDID พัฒนากระบวนการขอสินเชื่อบ้านที่เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาครั้งใหญ่ของประเทศไทย เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเงินมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการ โดยการพัฒนานี้สามารถลดระยะเวลาในการพิจารณาสินเชื่อบ้านลงจากเดิม 1-2 อาทิตย์ เหลือเพียง 1-2 วัน มีความแม่นยำสูง ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับผู้ขอสินเชื่อ ผู้พัฒนาอสังหาฯ และธนาคารได้กว่า 60% นอกจากนี้ ธนาคารยังมองว่าเป็นการขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น"

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) กล่าวว่า "ทางเครดิตบูโร มีการพัฒนา เครดิตสกอริ่ง มาแล้วกว่า 5 ปี ซึ่งพัฒนา Model ด้วยวิธีที่ยอมรับในระดับโลกมาใช้ในประเทศไทยโดยครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่นำ เครดิตสกอริ่ง มาใช้เพื่อช่วยลูกค้าในการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และถือเป็นต้นแบบ Model ในการพัฒนาไปยัง Use Case อื่นๆต่อไป ในอนาคต"

นายบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด กล่าวว่า "ในฐานะ Infrastructure Platform NDID มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ซึ่งตรงกับ Mission ของ NDID Platform ในการสร้างมาตรฐานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล โดยบริการ NDID eKYC และ eConsent เพื่อขอข้อมูลเครดิตจะอำนวยความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนการดำเนินการของธุรกรรมดิจิทัล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นการก้าวสู่ธุรกิจใหม่ของ NDID อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลดีไปยังผู้ขอสินเชื่อเป็นอย่างมาก"

นายวรรณเทพ หรูวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า "การก้าวย่างในครั้งนี้ ของ ICON Framework นับว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญอีกครั้ง จากการเป็นผู้ให้บริการ CRM กับผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเราก็เห็นว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการ มีปัญหาเรื่องการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร อยู่ในระดับที่สูง ดังนั้นเราได้ร่วมพัฒนากระบวนการดังกล่าว เพื่อให้ลูกค้าของเรามีประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น และการทำงานครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ ของความร่วมมือกันใน ระหว่างอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และภาคธนาคาร ที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้อีกด้วย จากการปฏิวัติการขอสินเชื่อในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง กระบวนการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถต่อยอดบริการใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต และที่สำคัญที่สุดถือเป็นครั้งแรกของประเทศ ที่จะนำเรื่อง เครดิตสกอริ่ง มาผนวกกับ Digital Mortgage และปรับกระบวนการทำงานอย่างจริงจัง เพื่อลดยอดปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารได้ในที่สุด"

ที่มา: ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ