ขีดความสามารถทั้ง 5 นี้ได้แก่
กิกะบิตที่แพร่หลาย: เมื่อบริการสมาร์ทโฮมและโฮมคลาวด์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เครือข่ายของผู้ให้บริการจะต้องพร้อมนำเสนอการเชื่อมต่อกิกะบิตที่แพร่หลาย และพร้อมพัฒนาไปสู่ 10G โซลูชัน FTTR ของหัวเว่ยครอบคลุม Wi-Fi ทั่วทั้งบ้าน และโซลูชัน XGS-PON ก็ตรงตามข้อกำหนดของการเชื่อมต่อกิกะบิตต้นน้ำและปลายน้ำแบบสมมาตรสำหรับบริการคลาวด์ในบ้าน นอกจากนี้ โซลูชัน 50G PON ของหัวเว่ยยังช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายพัฒนาเครือข่ายการเข้าถึงของตนไปสู่การเข้าถึง 10G ได้อย่างราบรื่น มอบประสบการณ์บริการบ้านที่ดียิ่งขึ้น
ไฟร์วอลล์: บริการเข้าถึงระบบคลาวด์และอินเทอร์เน็ตที่นำเสนอให้กับองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) กำหนดให้ผู้ให้บริการเครือข่ายต้องให้บริการคลาวด์ เครือข่าย และไฟร์วอลล์แบบครบวงจร โดยโซลูชัน Cloud-Network Express+ ของหัวเว่ยให้บริการไอซีที (ICT) แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการจัดการสายส่วนตัว ไฟร์วอลล์ และไวไฟ เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำหรับการเชื่อมต่ออัลตราบรอดแบนด์ด้วยไฟร์วอลล์
อัลตราบรอดแบนด์แบบยืดหยุ่น: เมื่อองค์กรหลายแห่งแห่ย้ายระบบการผลิตหลักของตน รวมถึงระบบอัตโนมัติในสำนักงาน ไปยังระบบคลาวด์ จึงจำเป็นต้องมีอัลตราบรอดแบนด์แบบยืดหยุ่นซึ่งมีความเร็วตั้งแต่ 100 Mbps ถึง 1,000 Mbps และสูงถึง 10 Gbps โดยโซลูชันแกนหลักแบบมัลติคลาวด์และสายส่วนตัว OTN ของหัวเว่ย นำเสนอการแบ่งส่วนเครือข่ายได้มากกว่า 100,000 ส่วน และให้แบนด์วิดท์ใหญ่มาก ช่วยให้ผู้ให้บริการได้เครือข่ายการเข้าถึงแบบมัลติคลาวด์ และรับประกันระบบคลาวด์ขององค์กร
เวลาแฝงต่ำ: แอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น การสตรีมสดและอินเทอร์เน็ตของยานพาหนะ (IoV) ได้เข้ามาส่งเสริมนวัตกรรมบริการเอดจ์ ผลักดันผู้ให้บริการเครือข่ายให้ออกแบบเครือข่ายการขนส่งใหม่เพื่อลดเวลาแฝง หัวเว่ยขอนำเสนอเทคโนโลยี 400G + OXC เพื่อช่วยผู้ให้บริการในการเปิดตัวเครือข่ายอัลตราบรอดแบนด์ที่มี DC เป็นศูนย์กลางและมีเวลาแฝงต่ำ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็น 800G และให้บริการที่มีเวลาแฝง 10 มิลลิวินาทีได้ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ ๆ
การส่งข้อมูลอัจฉริยะแบบไม่สูญเสีย: ในยุคประมวลผลอัจฉริยะนั้น การพัฒนาการส่งข้อมูลและพลังการประมวลผลร่วมกัน จำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายประมวลผลของผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อนำเสนอการส่งข้อมูลแบบไม่สูญเสียอย่างชาญฉลาด สำหรับการเชื่อมต่อภายในคลาวด์นั้น โซลูชันเอไอ เน็ตเวิร์ก เทอร์โบ (AI Network Turbo) ของหัวเว่ย สามารถปรับสมดุลโหลดได้อย่างชาญฉลาด และสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างคลาวด์นั้น หัวเว่ยมอบความสามารถเครือข่ายการรับส่งข้อมูล 400G แบบครบวงจรที่พร้อมวิวัฒนาการเป็น 800G ได้อย่างราบรื่น และเร่งการใช้บริการประมวลผลเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง
พลังขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมจำเป็นต้องสร้างขึ้นอย่างยั่งยืนจากทั้งเทคโนโลยีและธุรกิจ โดยในแง่ของเทคโนโลยีนั้น หัวเว่ยยังคงทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายและสถาบันมาตรฐานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรม 5.5G และเครือข่ายเป้าหมายที่มุ่งเน้น 5.5G การทำเช่นนี้เปิดโอกาสให้ตอบสนองความต้องการในการทำโมบายแบ็กฮอลล์ 100G และรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย 400G/800G อันเป็นผลจากการเข้าถึง 10Gbps อย่างแพร่หลาย ส่วนในแง่ของธุรกิจนั้น หัวเว่ยร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคม เพื่อนำเสนอการเชื่อมต่ออัจฉริยะระดับพรีเมียม เพิ่มการใช้งานเชิงพาณิชย์ในสถานการณ์สำคัญ และปลดล็อคคุณประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ทั้งนี้ คุณริชาร์ดเน้นย้ำถึงความสามารถของหัวเว่ย ในการเปิดตัวการเชื่อมต่ออัจฉริยะระดับพรีเมียม โดยทุกวันนี้ให้บริการโซลูชันล้ำสมัยจำนวนมากในเชิงพาณิชย์แล้วทั่วโลก หัวเว่ยยึดมั่นในแนวคิด "จากขีดสุดสู่ความเป็นเลิศ" (From Extreme to Excellence) และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อสร้างการเชื่อมต่ออัจฉริยะระดับพรีเมียม ให้ทุกฝ่ายเจริญก้าวหน้าไปด้วยกันในยุคดิจิทัล
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2246724/image_1.jpg