นางสาวศุภมาส กล่าวว่า "งานนี้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อกลุ่มสตาร์ตอัพที่เน้นเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) วัตถุประสงค์หลักคือ การให้โอกาสแก่สตาร์ตอัพที่เข้าร่วมงานได้นำเสนอและแสดงผลิตภัณฑ์ให้กับนักลงทุนที่มีศักยภาพ อีกทั้งมุ่งหวังให้เกิดการดึงดูดนักลงทุน VCs และ CVCs จากทั่วโลกเข้ามายังประเทศไทย นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานยังมีโอกาสในการเชื่อมโยงกับสตาร์ตอัพและผู้เล่นสำคัญในระบบนิเวศนวัตกรรม โอกาสในการเข้าร่วมเครือข่ายกับบุคคลผู้มีอิทธิพลในระบบนิเวศนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) ระดับโลก พร้อมทั้งได้รับข้อมูลสารสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ของตลาดสตาร์ตอัพไทยในปัจจุบันอีกด้วย"
รศ.ดร.ธงชัย ได้กล่าวถึงบทบาทของ บพข. ในการสนับสนุน Deep Tech Startup ของไทย ในเวทีเสวนา ภายใต้หัวข้อ Opportunities and Ecosystem of Thailand Deep Tech Landscape ว่า "การที่จะช่วยให้ Deep Tech Startup ประสบความสำเร็จใน Ecosystem ของไทยได้นั้น เราจำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมในการสร้างเทคโนโลยีและระบบนิเวศของการสร้างความรู้และเทคโนโลยีของเราเอง ซึ่ง บพข. เป็นหน่วยงานให้ทุนที่ส่งเสริมและขับเคลื่อนงานวิจัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Science and Technology) เพื่อให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าสูงออกสู่เชิงพาณิชย์ ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ บพข. มีแผนงาน "Deep Science and Technology Accelerator Platform" ที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนา Thai Deep Tech Startups และ SMEs ผ่านกลไกที่เรียกว่า Accelerator Platform ซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างแพลตฟอร์มบ่มเพาะและพัฒนาธุรกิจที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงลึก ช่วยส่งเสริมและผลักดันให้ Deep Tech Startup ก้าวไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องของ Market Fit โดยการฝึกสอน การให้คำปรึกษาแนะนำ ทั้งในเรื่องของ Market size, market growth และ financial feasibilityรวมถึงการจับคู่ธุรกิจกับ Deep Tech Startup ด้วยแนวทางถูกต้อง เพื่อช่วยสร้างโอกาสให้ Deep Tech Startup สามารถเข้าสู่ตลาดโลกได้ โดยใน 3 ปีที่ผ่านมา บพข. ได้ให้การสนับสนุนทุนกว่า 190 ล้านบาท ให้แก่ 11 Accelerator จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ 9 แห่ง และสถาบันวิจัย 1 แห่ง เกิด startups 84 สตาร์อัพ โดยมีแหล่งทุนภายนอกร่วมลงทุนกับ startup ในภาคอุตสาหกรรมกว่า 8 อุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่ากว่า 972 ล้านบาท เพื่อขยายขนาดและได้รับมาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเป้าหมายในการยกระดับ Deep Tech Startups ของไทยให้ก้าวพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางและการเป็นเพียงผู้ผลิต OEM แต่ต้องสามารถพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีเชิงลึกจนได้ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่มีมูลค่าสูง สามารถทำให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพื่อนำผลิตภัณฑ์หรือบริการออกสู่ global market เสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศและก่อให้มูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงได้"
"สิ่งสำคัญที่ บพข. จะช่วยสนับสนุนให้ Deep Tech Startup ของไทยประสบความสำเร็จได้นั้น เริ่มด้วยการสร้าง Connection เพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ startup ซึ่ง บพข. ได้เป็นหน่วยงานหลักในการเชื่อมโยงการจัดการทุนวิจัยพัฒนาและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้ประเทศ สิ่งต่อมาคือ Corroboration เรามุ่งเน้นในการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อช่วยสนับสนุนและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการของเรา สิ่งที่สามคือ Convert เราสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี เป็นผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่พร้อมออกสู่เชิงพาณิชย์ สิ่งที่สี่คือ Catalyst เรามีระบบพี่เลี้ยง (Mentoring System) และระบบการบริหารจัดการนวัตกรรม (Innovation management system) ที่เป็นตัวเร่งให้ Deep Tech Startup สามารถเข้าสู่ global market ได้ และทำให้เกิดสิ่งสุดท้ายคือ Competitiveness หรือความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ ซึ่งทั้งหมดนี้คือพันธกิจของ บพข. ที่จะต้องทำเพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการไทยเกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันและก้าวพ้นประเทศกับดักรายได้ปานกลาง" รศ.ดร.ธงชัย กล่าวทิ้งท้าย
โดยในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ บพข. จะนำทัพ 22 ผู้ประกอบการจาก 11 Accelerator ไปร่วมออกบูธจัดแสดงผลงานด้านนวัตกรรม ในงาน "TechInnovation 2023, Singapore" จัดโดย Innovation Partner for Impact (IPI) ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อหาพาร์ทเนอร์ใหม่จากต่างชาติมาร่วมลงทุนในนวัตกรรม และสร้างโอกาสในการแข่งขันในระดับ global market ของผู้ประกอบการไทยต่อไป
ที่มา: หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ