นายทิม สเคพวิงตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริชมอนทส์ (อินเตอร์เนชั่นแนล) จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจที่ปรึกษา ทางด้านการตลาดและการขายอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเริ่มกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้นภายหลังสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จบลง ซึ่งทำให้นโยบายและการทำงานของภาครัฐมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เคยชะลอการตัดสินใจซื้อก่อนหน้านี้ให้กลับเข้ามาในตลาด และทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปีนี้มีแนวโน้มที่จะคึกคักมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐให้ความสำคัญกับการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายจึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้กำลังซื้อจากภายในและนอกประเทศกลับมา
ส่วนสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศอาจจะต้องพิจารณาเป็นรายประเทศ โดยในกรณีของประเทศญี่ปุ่น มองว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีโอกาสสูง เพราะหลังจากญี่ปุ่นเปิดประเทศ ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงหิมะในฮอกไกโด เมืองนิเซโกะ เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่โดดเด่น มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวมถึงนักท่องเที่ยวคนไทยให้ความสนใจไปเที่ยวเมืองนิเซโกะเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี โดยสถิติในครึ่งปีแรก 2566 มีนักท่องเที่ยวคนไทยไปเยือนญี่ปุ่นแล้วกว่า 497,700 คน ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงยิ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้าไปลงทุนในญี่ปุ่นมากขึ้น ส่งผลต่อเนื่องถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม โรงแรม ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิเซโกะตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 - เมษายน 2566 จำนวน 3.21 ล้านคน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน พฤษภาคม 2565 - ตุลาคม 2565 จำนวน 1.48 ล้านคน และนักท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว พฤศจิกายน 2565 - เมษายน 2566 จำนวน 1.73 ล้านคน และคิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย 128,000 คน คิดเป็น 4% จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งเป็นสถิติที่น่าสนใจ
นางสาวแฮนน่า ยูโล-ลูซินี่ ประธานกรรมการบริหาร Hotel101 เปิดเผยว่า "บริษัท ดับเบิ้ล ดราก้อน คอร์ปอเรชั่น" เป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการ "Hotel101 - Niseko, Japan" มูลค่าโครงการกว่า 4,600 ล้านบาท เป็นโครงการแบบ Condotel ภายใต้แนวคิดการออกแบบในสไตล์ Modern Japanese-style เน้นเรื่องความเรียบง่าย ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า บนที่ดินประมาณ 6 ไร่ ก่อสร้างเป็นอาคาร Low rise สูง 6 ชั้น และ 1-Basement มีห้องชุด Happy Room จำนวน 482 ยูนิต ดีไซน์ให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานแบบคอนโดมิเนียม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางเหมือนการใช้บริการในโรงแรม และมีที่จอดรถภายนอกอาคาร 167 คัน คิดเป็นประมาณ 40% ของจำนวนห้อง โครงการดำเนินการก่อสร้างแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 และประมาณการแล้วเสร็จปี 2569
ทั้งนี้ โครงการเสนอการขายห้องพักแบบซื้อเป็นทรัพย์สิน หรือ แบบร่วมลงทุน ซึ่งตอบโจทย์การลงทุนทรัพย์สินในต่างประเทศในช่วง "ค่าเงินเยนอ่อนค่า" หลักการแนวคิดการลงทุนใน Hotel101 ทางบริษัทเสนอการดูแลการบริหารงานทั้งหมด สัดส่วน 70 ต่อ 30 โดยแบ่งเป็นผลตอบแทนสำหรับเจ้าของ (Owner) สัดส่วน 30% (ก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษี) และ Hotel101 สัดส่วน 70% (ทางโรงแรมจะรับผิดชอบในส่วนของค่าบริหารงาน การซ่อมบำรุงภายในห้องชุดและการรีโนเวท) โดยเจ้าของสามาถเข้าพักฟรี 10 คืนต่อปี แบ่งเป็น 5 คืน ใน Hotel101 - นิเซโกะ และอีก 5 คืนในโรงแรมในเครือ Hotel101 ทั่วโลก
นิเซโกะ เป็นเมืองสกี รีสอร์ท ที่เปิดตลอดทั้งปี และมีกิจกรรมให้ทำมากมายในฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยใน ฤดูหนาว จะสามารถเล่นสกียาวนานกว่าที่รีสอร์ทหลาย ๆ แห่ง และโดยทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ส่วน ฤดูร้อน ในนิเซโกะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 21 องศาเซลเซียส ทำให้มีสภาพอากาศที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท เช่น กอล์ฟ ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ที่ฮอกไกโดมีสนามกอล์ฟ มากถึง 119 แห่งซึ่งหลายแห่งติด "สนามกอล์ฟ 100 อันดับแรกของเอเชีย" นอกจากการตีกอล์ฟแล้ว ผู้มาเยือนนิเซโกะในช่วงฤดูร้อนยังสามารถเพลิดเพลินกับการปั่นจักรยานเสือภูเขา เดินป่า กีฬาทางน้ำ พายเรือคายัค ขี่ม้า ตกปลา และตั้งแคมป์ เป็นต้น
"นิเซโกะ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะฮอกไกโด เพราะฉะนั้นจะรับลมหนาวจากภูมิภาคไซบีเรียของรัสเซีย ทำให้มีหิมะตกจำนวนมากทุกปี แต่หิมะของที่นี่มีความพิเศษคือจะนุ่ม powder และไม่หยาบกระด้าง เหมาะสำหรับการเล่นสกี" นางสาวแฮนน่า กล่าว
นายพอล มอริส ผู้จัดการฝ่ายขาย H2 Christie's International Real Estate ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการ Hotel101 - นิเซโกะ, ญี่ปุ่น ว่า การออกแบบห้องพักจะเป็นแบบเดียวกันเรียกว่า HappyRooms มีทั้งหมด 482 ห้อง ขนาด 21 ตารางเมตร ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ สามารถพักได้สูงสุด 3 ท่าน ราคาขายพิเศษในช่วงเปิดตัวโครงการ มีราคาเดียวอยู่ที่ 9.09 ล้านบาทเท่ากันทุกยูนิต ทุกตำแหน่ง ส่วนรูปแบบการลงทุนจะเหมือนกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยลูกค้าสามารถซื้อเงินสด หรือ ผ่อนชำระงวดดาวน์กับทางโครงการได้ ทั้งนี้ เมืองนิเซโกะ เป็นหนึ่งในสถานที่เล่นสกีที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นในด้านการเติบโตของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน โดยมูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นมากกว่า 44%
"ปัจจุบันกลุ่ม Hotel101 มีห้องพักในเครือกว่า 2,001 ห้องที่ได้เปิดใช้บริการอยู่ และมีห้องพักอีก 6,013 ห้องทั่วโลกที่รอเปิดให้ใช้บริการ ทำให้มั่นใจว่า Hotel101 - นิเซโกะ, ญี่ปุ่น จะยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของคอนโดเทลที่เป็นมิตรกับนักลงทุนมากที่สุดในนิเซโกะต่อไปอีกหลายปีหลังจากนี้ ประกอบกับปัจจุบันเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในรอบกว่า 20 ปี ถือเป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนไทยและต่างชาติ"
การเดินทางไป Hotel101 จากสนามบินนิวชิโตเสะใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบิน 6 ชั่วโมง 30 นาทีจากกรุงเทพฯ และนิเซโกะอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 100 กม. หรือ 2 ชั่วโมงหากเดินทางโดยรถยนต์ นอกจากนั้น นิเซโกะกำลังรอผลสรุปการคัดเลือกเพื่อเป็นเจ้าภาพและสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิกเกมส์ปี 2030 และมีการวางแผนการเชื่อมต่อรถไฟชินคันเซ็นเส้นทางใหม่ในปีเดียวกัน เพื่อลดเวลาเดินทางจากซัปโปโรจาก 2 ชั่วโมง เหลือเพียง 25 นาที และการเดินทางจากโตเกียวทางอากาศและรถไฟจาก 6 ชั่วโมง เหลือ 4 ชั่วโมง 18 นาที
สำหรับการขายในประเทศไทย Hotel101 - นิเซโกะ, ญี่ปุ่น ได้แต่งตั้ง บริษัท ริชมอนทส์ (อินเตอร์เนชั่นแนล) จำกัด เป็นตัวแทนขายอย่างเป็นทางการเพียงรายเดียว โดยเตรียมจะเปิดขายในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566
ทั้งนี้ ผู้สนใจซื้อและนักลงทุนชาวไทยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตัวแทนบริหารการขาย บริษัท ริชมอนทส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เบอร์ติดต่อ 062 496 6454 หรือ เข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.richmonts.com
ที่มา: เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง