"จากการเก็บข้อมูลพบว่า ปีที่ผ่านมา สวนพฤกษศาสตร์พุแค มีการวัดปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ได้มากถึง 141,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ปลดปล่อยออกซิเจนให้กับสิ่งมีชีวิตได้มากกว่า 71,000 ตัน โดยกิจกรรมครั้งนี้ จึงเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อคืนชีวิต คืนพื้นที่สีเขียวให้กับผืนป่า ตามเป้าหมายการทำงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในการดูแล และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่คู่กับประเทศไทยอย่างยั่งยืน" นายหงษ์พิจารณ์ กล่าว
ด้าน นางสาวสลิลรัตน์ พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการ ซีพี - เมจิ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจกว่า 3 ทศวรรษ ซีพี-เมจิ วางเป้าหมายในการเติบโตของบริษัทควบคู่กับการดูแลและรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด "เพิ่มคุณค่าชีวิต" ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ ประโยชน์ต่อประเทศ ประโยชน์ต่อประชาชน และประโยชน์ต่อองค์กร เป็นลำดับสุดท้าย
"ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นความท้าทายที่ทุกภาคส่วนกำลังเผชิญ ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณเตือนสำคัญ ที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องหันมาตระหนักถึงการคืนสมดุลให้แก่ธรรมชาติ รวมถึง อนุรักษ์ ฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยซีพี-เมจิ ตั้งเป้าหมายปลูกต้นไม้ 200,000 ต้น ภายในปี พ.ศ. 2573 ปัจจุบันโครงการดำเนินมาแล้วเป็นปีที่ 3 ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 52,000 ต้น" นางสาวสลิลรัตน์ กล่าว
บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ร่วมกับทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อาทิ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใต้แนวคิด 'เพิ่มคุณค่าชีวิต' หรือ 'Enriching Life' 3 ด้านได้แก่ ด้านสุขภาพ (Health) คือการพัฒนาสินค้าเพื่อดูแลสุขภาพของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย รวมถึงการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้านสังคม (People) ได้แก่ การดูแลเกษตรกร พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า พนักงานและชุมชน และด้านสิ่งแวดล้อม (Planet) ด้วยการจัดการด้านพลังงาน การอนุรักษ์น้ำ การจัดการของเสีย และการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ที่มา: เจริญโภคภัณฑ์อาหาร