เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ จับมือเอแอลพี สร้างโกดังโอเมกาแห่งใหม่ มุ่งเสริมสร้างโลจิสติกส์อัตโนมัติอัจฉริยะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ศุกร์ ๒๐ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๑๒
ความร่วมมือสะท้านวงการครั้งนี้มอบระบบชั้นวางสินค้าแนวสูงชั้นเยี่ยม ซึ่งรองรับน้ำหนักตัวเองได้อย่างอิสระ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในแง่ของการใช้สอยพื้นที่และความมั่นคงสำหรับบริเวณเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ (SSI Schaefer) ผู้นำระดับโลกด้านโลจิสติกส์และโกดังสินค้าอัตโนมัติ ประกาศความร่วมมือกับผู้พัฒนาระบบโลจิสติกส์จากไต้หวันอย่างแอลลี่ โลจิสติกส์ พร็อพเพอร์ตี้ (Ally Logistic Property) หรือเอแอลพี (ALP) เพื่อส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานหลักในใจกลางโอเมกา 1 บูกิต ราชา (OMega 1 Bukit Raja) ที่กำลังจะสร้างขึ้นของเอแอลพี ซึ่งเป็นโกดังอัจฉริยะพร้อมระบบอัตโนมัติภายในตัว โดยมีระบบโครงสร้างอาคารควบชั้นวางสินค้าแนวสูง

ดูข้อมูลโซลูชันออกแบบเฉพาะที่ครอบคลุมของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ สำหรับโครงการศูนย์ดำเนินงานที่สำคัญในอนาคต โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ ที่ [email protected]  

โอเมกา 1 บูกิต ราชา ตั้งอยู่ในรัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยจะเป็นโกดังสินค้าอัตโนมัติขนาดใหญ่ที่สุดของเอแอลพีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ขนาดใหญ่ 1.8 ล้านตารางฟุต และได้รับการประเมินมูลค่าอยู่ที่ 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (844 ล้านริงกิต) จึงถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งที่จะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.68 พันล้านริงกิต) ในมาเลเซีย เพื่อพัฒนาโซลูชันโกดังสินค้าอัจฉริยะที่ก้าวหน้าล้ำสมัย ซึ่งจะยกระดับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของมาเลเซียขึ้นไปสู่ขั้นใหม่ ๆ

ข้อได้เปรียบสำคัญอย่างหนึ่งของโอเมกาคือโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์อัจฉริยะในโกดังแห่งนี้ รวมถึงโซลูชันชั้นวางสินค้าที่ก้าวหน้าของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ช่วยให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาลในระบบอัจฉริยะด้วยตัวเอง แนวทางเชิงกลยุทธ์นี้มอบพลังให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติที่ก้าวหน้าอย่างคุ้มค่ากับต้นทุนยิ่งขึ้น

"เรารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เอแอลพีไว้วางใจให้เราดำเนินบทบาทนำในสถานดำเนินงานที่สำคัญเช่นนี้" คุณฉาน ฟุ่ง โช (Chan Foong Chow) ผู้อำนวยการฝ่ายขาย แผนกโซลูชันธุรกิจวางระบบของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ กล่าว "เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ใจกลางโครงการนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างมีความรับผิดชอบของเรา เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายทางธุรกิจของลูกค้าด้วยโซลูชันออกแบบเฉพาะที่ยอดเยี่ยม"

ขณะนี้ซัพพลายเชนกำลังเบนออกจากจีนไปสู่หลาย ๆ ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามข้อค้นพบจากงานวิจัยโดยบริษัทที่ปรึกษาอย่างแมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (McKinsey & Company) ขณะที่การดำเนินงานในซัพพลายเชนเปลี่ยนแปลงและขยายตัว บริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาคจำเป็นต้องมีคลังจัดเก็บสินค้าอัจฉริยะที่ปรับขยายได้ ซึ่งไม่เพียงเอื้อต่อการเติบโตอย่างยืดหยุ่น แต่ยังเสริมสร้างให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังด้วย โอเมกาตอบโจทย์ดังกล่าวนี้ด้วยสมรรถนะการจัดเก็บที่ล้นเหลือของระบบชั้นวางสินค้าเชิงหนาแน่นสูงของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ความยืดหยุ่นจากระบบการเช่าแบบชำระตามที่ใช้งานจริง และโซลูชันอัตโนมัติดิจิทัลใหม่ล่าสุดที่พร้อมรับกับอนาคต

ความสำเร็จอันเหนือชั้นในด้านโลจิสติกส์ภายในองค์กร

เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและระบบชั้นวางสินค้า โดยออกแบบ ผลิต และติดตั้งโกดังสินค้าอัจฉริยะที่เป็นแกนหลักและโครงสร้างพื้นฐานงานเหล็กของศูนย์ดำเนินงานแห่งนี้ โดยปรับแต่งให้โซลูชันชั้นวางสินค้าของบริษัทฯ ผนวกเข้ากับพื้นที่และระบบที่มีการเชื่อมต่อได้อย่างลงตัว ดีไซน์ของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ประกอบด้วยตำแหน่งแท่นวางสินค้ากว่า 100,000 จุดกระจายอยู่ทั่วช่องทางเดิน 38 ช่อง โดยรองรับช่องทางเดินแนวลึกแบบคู่ 8 ช่อง และช่องทางเดินแนวลึกแบบเดียว 30 ช่อง จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้สอยพื้นที่ให้เป็นไปอย่างสูงสุด พร้อมทั้งมีความหลากหลายของแท่นวางสินค้าบนพื้นที่ราว 693,000 ลูกบาศก์เมตร

อาคารขนาดใหญ่พร้อมด้วยโครงสร้างชั้นวางสินค้าในอาคารเพดานสูงแบบรองรับน้ำหนักตัวเองอย่างอิสระ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยเหล็กกว่า 4,700 ตันนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ภายในองค์กร โดยเป็นโกดังสินค้าภายในอาคารเพดานสูง 40 เมตร ซึ่งไม่ต้องมีเสาอาคารรองรับ นอกจากจะเอื้อต่อการใช้ประโยชน์จากพื้นที่มากขึ้น ดีไซน์เช่นนี้ยังมอบความมั่นคงในระดับสูง โดยทีมวิศวกรของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ มีประวัติผลงานเป็นที่ประจักษ์ในด้านการปรับแต่งโซลูชันชั้นวางสินค้าที่มีกลไกต้านทานแรงกระทำจากภายนอกและการถล่ม จากมวลที่มีน้ำหนักมากของแท่นวางที่มีสินค้าจัดเก็บอยู่ ตลอดจนแรงแนวระนาบที่มีไดนามิกจากอุปกรณ์การจัดเก็บเอสอาร์เอ็ม (SRM) และเหตุการณ์แผ่นดินไหวขั้นรุนแรง ความปลอดภัยตลอดอายุการใช้งานของระบบชั้นวางสินค้าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในปรัชญาการออกแบบของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ การยึดมั่นในพันธกิจดังกล่าวนี้รับประกันว่าโซลูชันชั้นวางสินค้าของลูกค้า สอดคล้องกับมาตรฐานด้านแผ่นดินไหวในทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก

โอเมกา: โกดังอัจฉริยะสุดล้ำมุ่งยกระดับระบบนิเวศโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โอเมกา (OMega) โกดังสินค้าอัจฉริยะพร้อมด้วยระบบอัตโนมัติภายในตัว มีระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติแบบบูรณาการ (AS/RS) ทำให้ซัพพลายเชนหลายกลุ่มอยู่ร่วมกันและได้ประโยชน์จากเครือข่ายดิจิทัลและการทำงานอัตโนมัติ

คุณเคเรน หลิว (Keren Liu) กรรมการผู้จัดการของเอแอลพี มาเลเซีย กล่าวว่า "เรามั่นใจว่าโอเมกา 1 บูกิต ราชา เป็นการบุกเบิกครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของมาเลเซีย ด้วยความเชี่ยวชาญอันยอดเยี่ยมของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ในด้านนี้และในภูมิภาคแห่งนี้ เรามีความมั่นใจอย่างสูงสุดว่าการพัฒนาโครงสร้างชั้นวางสินค้าภายในอาคารของเราอยู่ในมือของผู้ที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง"

คุณหลิว เน้นย้ำว่า "นับตั้งแต่ริเริ่มโครงการนี้ ทีมงานของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะทำความเข้าใจความต้องการของเราอย่างสม่ำเสมอ และคอยดำเนินการเชิงรุกในการให้คำแนะนำ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินโครงการจะเป็นไปอย่างราบรื่น ความทุ่มเทตั้งใจเช่นนี้เป็นสิ่งที่เราให้คุณค่าสูงสุดในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของเรา"

สถานดำเนินงานแห่งนี้มีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาสที่สามของปี 2567 และมุ่งที่จะเพิ่มสมรรถภาพด้านคลังสินค้าของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และโกดังสินค้าของมาเลเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของแบรนด์และผู้ค้าปลีกข้ามชาติที่ต้องการศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาค เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอเมกาได้ที่ https://www.alp.com.tw/en/omega 

เกี่ยวกับเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ กรุ๊ป

เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ กรุ๊ป (SSI Schaefer Group) เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกผู้ให้บริการโซลูชันสำหรับทุกด้านของโลจิสติกส์ภายในองค์กร บริษัทฯ ใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์เชิงนวัตกรรมเพื่อมอบพลังให้ลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนของกระบวนการจัดเก็บสินค้า หยิบสินค้า และขนส่งสินค้า เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ เสนอบริการโซลูชันจัดการวัตถุดิบที่คุ้มต้นทุน พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจากแหล่งเดียว แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทฯ ให้บริการโซลูชันครบวงจร ตั้งแต่โกดังสินค้าอัตโนมัติเต็มรูปแบบพร้อมด้วยแพ็คเกจบริการและการซ่อมบำรุงปรับแต่งเฉพาะ ไปจนถึงหุ่นยนต์และรถนำทางอัตโนมัติ ตลอดจนระบบไม่อัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติ อย่างเช่น พื้นที่ทำงาน ชั้นวางสินค้า และตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกสินค้า เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ยังเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รายใหญ่อันดับต้น ๆ สำหรับระบบการไหลของวัตถุดิบภายในองค์กร พอร์ตฟอลิโอซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมของบริษัทฯ รองรับทุกอย่าง ตั้งแต่การจัดการโกดังสินค้าไปจนถึงการควบคุมการไหลของวัตถุดิบ ด้วยการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ที่ก้าวหน้าล้ำสมัย การประมวลผลข้อมูลที่เป็นอัจฉริยะ และอัลกอริทึมเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด บริษัทฯ เสนอทุกตัวเลือกที่เป็นไปได้สำหรับการจัดการทรัพยากรเชิงบูรณาการที่ยั่งยืน

เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ มีพนักงานราว 10,000 คนในสำนักงานใหญ่ระหว่างประเทศในเมืองน็อยน์เคียร์เชิน ประเทศเยอรมนี รวมถึงในบริษัทที่ดำเนินการอยู่กว่า 70 แห่ง และศูนย์การผลิต 7 แห่งใน 6 ทวีป

เป็นเวลาหลายปีที่เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ กรุ๊ป ได้พึ่งพาพันธมิตรที่วางใจได้ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ที่โร-เบอร์ (RO-BER) และผู้เชี่ยวชาญด้านระบบบริหารจัดการเอสเอพี (SAP) ที่สวอน (SWAN) รวมทั้งดีเอส ออโตเมชัน (DS Automotion) บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์และรถนำทางอัตโนมัติซึ่งเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของเอสเอสไอ เชฟเฟอร์ กรุ๊ป ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566

เกี่ยวกับแอลลี่ โลจิสติกส์ พร็อพเพอร์ตี้ (เอแอลพี) 

แอลลี่ โลจิสติกส์ พร็อพเพอร์ตี้ (Ally Logistic Property) หรือเอแอลพี (ALP) เป็นผู้ให้บริการโซลูชันโกดังสินค้าครบวงจรที่มีความเป็นนวัตกรรมมากที่สุดในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไต้หวัน โดยมอบโซลูชันโกดังสินค้าอัจฉริยะที่ก้าวหน้าล้ำสมัย รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ด้านโกดังสินค้า การบูรณาการระบบอัตโนมัติ และบริการโกดังสินค้า เอแอลพีก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 จนถึงปัจจุบันได้ก่อสร้างนิคมโลจิสติกส์ที่น่าทึ่งแล้ว 6 แห่ง และขณะนี้บริหารจัดการพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร โดยขยายพอร์ตฟอลิโอด้านโกดังสินค้าจนเป็นรายใหญ่อันดับต้น ๆ ในไต้หวัน เอแอลพีบูรณาการทรัพยากรและบุคลากรผู้มีความสามารถจากหลากหลายภูมิหลัง เพื่อแก้ปัญหากระบวนการโลจิสติกส์ที่ซับซ้อนที่สุดสำหรับลูกค้า และมอบโซลูชันที่เรียบง่ายยิ่งขึ้น อัจฉริยะยิ่งขึ้น และยั่งยืนยิ่งขึ้นผ่านโกดังอัจฉริยะของบริษัทฯ เอแอลพีมีการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไต้หวัน และขณะนี้กำลังเริ่มต้นกลยุทธ์การเข้าสู่เอเชียตะวันออกเชียงใต้ และเปิดตัวโครงการโอเมกาโครงการแรกในมาเลเซียเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ และแรงบันดาลใจสำหรับโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์อัจฉริยะ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอแอลพีได้ที่ www.alp.com.tw/en 



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ