มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล สานต่ออนาคต "ขนมและของว่างเพื่อความยั่งยืน" เน้นสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม สู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2593

พุธ ๒๕ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๓๐
ในปัจจุบัน เทรนด์ความยั่งยืนยังคงเป็นประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจและนำมาปรับใช้ในทุกมิติของการใช้ชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงเรื่องการรับประทานขนมและของว่าง ความยั่งยืนจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีจะบทบาทในการขับเคลื่อนทิศทางของนวัตกรรมการพัฒนาขนมและของว่างในอนาคต ในรายงานนโยบายด้านความรับผิดชอบสังคมประจำปี พ.ศ. 2565 ล่าสุดของบริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายขนมและของว่างแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อย่างคุกกี้โอรีโอ ลูกอมฮอลล์ หมากฝรั่งเดนทีน และช็อกโกแลตแคดเบอรี นอกจากจะอัพเดทความคืบหน้าด้านการดำเนินงานเพื่อตอบโจทย์ด้านสุขภาพและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ข้อมูลจากรายงานดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ความยั่งยืนล่าสุดในตลาดขนมและของว่างระดับโลกที่น่าจับตามอง ซึ่งถูกสานต่อมาสู่การดำเนินงานในประเทศไทยอีกด้วย

คุณณัฐณี เกษมรัฐกุล หัวหน้าฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในฐานะผู้นำด้านขนมและของว่าง บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ระดับโลกในการส่งเสริมการบริโภคขนมและของว่างอย่างเหมาะสม โดยยึดหลักการดำเนินงาน 4 ด้าน ได้แก่ การสร้างการเติบโต (Growth) การดำเนินงาน (Execution) การสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Culture) และการพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability) โดยการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภคและชุมชนต่าง ๆ และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานด้านการพัฒนาความยั่งยืนทั้งในระดับโลกและในระดับท้องถิ่นของเรามาโดยตลอด ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593"

จากเป้าหมายดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2565 โรงงานผลิตลูกอมและหมากฝรั่งในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ได้ดำเนินงานสอดคล้องกับนโยบายดังกล่าวและบรรลุเป้าหมายในการประหยัดพลังงานผ่านโครงการต่าง ๆ และยังสามารถลดการใช้ทรัพยากรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้โดย

  • ลดการใช้พลังงานลง 39% ในปี พ.ศ. 2565 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2561 โดยช่วยลดมลพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 3,535 ตันต่อปี ซึ่งมีค่าเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 39,174 ต้น
  • ลดการใช้น้ำได้ถึง 22% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2561 และลดปริมาณขยะอาหารได้ถึง 65% หรือ 1,042 ตัน
  • นำขยะกระดาษ พลาสติก และโลหะต่าง ๆ กลับมารีไซเคิลรวมกว่า 148 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 367 ตันต่อปี
  • ระบบผลิตไฟฟ้าบนหลังคาหรือโซลาร์รูฟท็อปเป็นแหล่งที่มาของพลังงานหมุนเวียนที่สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ปีละ 2,022,530 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 284 ตันต่อปี ซึ่งมีค่าเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 3,147 ต้น

นอกจากนี้ โรงงานอีกแห่งของมอนเดลีซซึ่งเป็นแหล่งการผลิตเครื่องดื่มชนิดผง ตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ยังคงเดินหน้าดำเนินงานเพื่อสนับสนุนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ

  • เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) 100% ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559
  • ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ 2 ตันต่อปี ทำให้กลายเป็นโรงงานของมอนเดลีซแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA) ที่ได้รับการรับรองด้านการก้าวสู่ความเป็นกลางด้านคาร์บอน (Carbon Neutral)
  • ลดการใช้น้ำ 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยไม่มีน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดถูกทิ้งออกสู่ภายนอกโรงงาน เนื่องจากโรงงานจะนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้ว กลับมารีไซเคิลเพื่อใช้เติมที่หอระบายความเย็น
  • เปลี่ยนขยะอาหารจากโรงงานเป็นวัตุดิบเริ่มต้นของอาหารสัตว์ และได้รับการรับรองว่าเป็นโรงงานที่สามารถกำจัดขยะให้เหลือศูนย์โดยใช้ประโยชน์จากของเสียได้ทั้งหมด (Zero Waste to Landfill Certificate) (พร้อมได้รับการตรวจสอบโดย SGS)
  • นำขยะกระดาษ พลาสติก ไม้ และโลหะต่าง ๆ กลับมารีไซเคิลรวม 117 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 440 ตันต่อปี

บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ยังมุ่งส่งเสริมการบริโภคขนมและของว่างอย่างเหมาะสม ด้วยการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น แทงก์ กัมมี่ส์ ที่เสริมวิตามินซี ลูกอมฮอลล์ เอ็กซ์เอส และหมากฝรั่งเดนทีน ชูการ์ฟรี ที่เป็นผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำตาลและหมากฝรั่งคลอเร็ทรีแคลเด้นท์ที่มีสารรีแคลเด้นท์ พร้อมแสดงข้อมูลโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลในการเลือกรับประทานได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณที่ควรบริโภคต่อครั้ง และมีการควบคุมปริมาณพลังงานที่ได้รับต่อหนึ่งหน่วยบริโภคให้ไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี เพื่อสนับสนุนแนวคิดการบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมด้วย

อีกหนึ่งความมุ่งมั่นที่บริษัทฯ มีอย่างต่อเนื่อง คือการขยายการดำเนินงานเพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีแก่ชุมชนในระดับท้องถิ่นผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น กิจกรรมพนักงานจิตอาสาร่วมปลูกต้นไม้ 300 ต้นในบริเวณสวน 15 นาที ณ ชุมชนตลาดแสงจันทร์ กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณชุมชนโดยรอบ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการขยะอย่างถูกวิธีแก่เยาวชนในโครงการ "โรงเรียนรักษ์โลก แยกขยะลุ้นโชคกับมอนเดลีซ" (Trash Right Program) ภายใต้ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการสานต่อกลยุทธ์และเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) ในระดับโลก

มร. เดิร์ก แวน เดอ พุท ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ กล่าวว่า "จากการที่เราได้สร้างรากฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่งตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามนโยบายด้านความรับผิดชอบสังคม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตที่นำไปสู่การบุกเบิกนวัตกรรมใหม่ ๆ และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เหมาะสมกับประชากรและโลกของเรา ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่การดำเนินงานของ บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ มีความคืบหน้าและเป็นไปตามเป้าหมายที่เราวางไว้ ท่ามกลางช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย
ครั้งใหญ่ในปัจจุบัน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ชัดเจนของเราในการรักษาตำแหน่งผู้นำด้านขนมและของว่างอย่างต่อเนื่องในอนาคต"

ความคืบหน้าของการดำเนินงานของบริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ ในปี พ.ศ. 2565 ตามเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล[ "สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และความคืบหน้าการดำเนินงานสู่เป้าหมายต่าง ๆ ของเราจากรายงานนโยบายด้านความรับผิดชอบสังคมประจำปี พ.ศ. 2565 (Snacking Made Right 2022 Report) ที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ในหัวข้อ "ความคืบหน้าด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล" และ "เกี่ยวกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล" ในหน้า 10 ถึง 11 และหน้า 78"] ประกอบด้วย

  • วัตถุดิบที่ยั่งยืน
    • 80% ของปริมาณโกโก้สำหรับแบรนด์ช็อกโกแลตมาจากโครงการโกโก้ ไลฟ์ (Cocoa Life) ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายการดำเนินงานของเราภายในปี พ.ศ. 2568
    • 98% ของปริมาณข้าวสาลีที่ใช้ในการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์บิสกิตในยุโรป มีที่มาจากโครงการฮาร์โมนี่ ชาร์เทอร์ (Harmony Charter) ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนการปลูกข้าวสาลีอย่างยั่งยืน
    • 100% ของน้ำมันปาล์มได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมมิติความยั่งยืนทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (Roundtable on Sustainable Palm Oil หรือ RSPO)
  • สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม
    • สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากขั้นตอนการผลิต 25% ณ สิ้นปี พ.ศ. 2565 (เทียบกับปี พ.ศ. 2561)
    • ประมาณ 39% ของพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานการผลิตเป็นพลังงานหมุนเวียน
  • บรรจุภัณฑ์
    • 96% ของบรรจุภัณฑ์ถูกออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้
    • ลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่โดยรวม 1.5% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2563
    • ลดการใช้วัสดุสำหรับบรรจุภัณฑ์ลง 72,600 ตัน
  • พนักงาน ชุมชน และสภาวะความเป็นอยู่ที่ดี
    • มีพนักงานผู้หญิงที่อยู่ในระดับผู้นำขององค์กร 40% และคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนเป็นสองเท่าภายในปี พ.ศ. 2567
    • 74% ของชุมชนที่อยู่ภายใต้โครงการ โกโก้ ไลฟ์ ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ได้รับการดูแลโดย Child Labor Monitoring and Remediation Systems หรือ CLMRS
  • การบริโภคขนมและของว่างอย่างเหมาะสม
    • 45% ของรายได้สุทธิมาจากผลิตภัณฑ์ ที่มีการแสดงข้อมูลการบริโภคขนมและของว่างในปริมาณที่เหมาะสมบนบรรจุภัณฑ์

ที่มา: ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version