การติดตั้งเครื่องล่าสุดครั้งนี้นับเป็นการติดตั้งอย่างต่อเนื่องหน่วยที่6 ของโรงไฟฟ้าที่ระยองและชลบุรี ที่เสร็จสิ้นตามกำหนดในสัญญา โรงไฟฟ้า 5 หน่วยก่อนหน้านี้มีชั่วโมง การเดินเครื่องจริง (AOH) สะสมเกิน 50,000 ชั่วโมง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของระบบกังหันก๊าซ JAC ที่ล้ำสมัย การก่อสร้างจะดำเนินการไปตามแผน โดยคาดว่าทั้ง8 เครื่องจะพร้อมให้บริการครบทั้งหมดภายในปี 2567
คุณวรพงษ์ วิวัฒน์วานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานพัฒนาโครงการของบริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ได้กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเดินเครื่องของระบบล่าสุดว่า "ในโครงการก่อนหน้านี้ที่จังหวัดชลบุรี เราได้พบกับความท้าทายมากมาย แต่เราก็สามารถอาศัยประสบการณ์ที่ผ่านมาในการดำเนินโครงการ ผมขอชื่นชมที่หน่วยที่สองเริ่มเดินเครื่องได้ตามกำหนดการที่วางไว้ตั้งแต่ต้น ด้วยความสัมพันธ์ที่เชื่อมั่นในกันและกันอย่างแน่นแฟ้น ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถดำเนินโครงการทั้งหมดนี้ได้ตามกำหนดการ"
นายอะคิระ ทะคะฮะชิ ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทมิตซูบิชิ พาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ทั้งสองบริษัทได้ใช้องค์ความรู้ที่สั่งสมจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าสองแห่งที่ผ่านมาภายใต้การนำของกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อทำให้การเดินเครื่องสำเร็จลุล่วง ในอนาคตเราจะยังคงพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่าทุกระบบจะให้บริการได้ตามกำหนดการและเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ เราจะพัฒนาระบบที่เชื่อถือได้เพื่อรองรับการเดินเครื่องในระยะยาว การบำรุงรักษา และการตรวจสอบในระยะยาว หลังจากที่เริ่มเดินเครื่องจริงแล้ว"
ส่วนหนึ่งของโครงการเดียวกันนี้ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าในเครือเดียวกันที่จังหวัดชลบุรีแล้วเสร็จไปเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจากกังหันก๊าซ (GTCC) ที่มีกังหันก๊าซ M701JAC 4 เครื่อง กำลังผลิตรวม 2,650 เมกะวัตต์ (MW) โรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งเดินเครื่องได้อย่างมีเสถียรภาพในขณะนี้
โรงไฟฟ้าที่ระยองอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 130 กิโลเมตร และมีบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด* เป็นเจ้าของและดำเนินกิจการ โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายใหญ่ที่สุดของไทยกับบริษัท มิตซุย แอนด์ โค จำกัด ไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งนี้จะจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ช่วยให้การผลิตไฟฟ้าของไทยมีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
โครงการทั้งหมดประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมกังหันก๊าซ (GTCC) สองแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีระบบขับเคลื่อนสี่ชุดอันประกอบด้วยกังหันก๊าซ กังหันไอน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าไอน้ำแบบหมุนเวียนความร้อน และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ในช่วงการก่อสร้างกันมีการหยุดชะงักไปบ้างจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม มิตซูบิชิ พาวเวอร์ ได้บริหารจัดการดำเนินงานโดยอาศัยความร่วมมือและการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและผู้รับเหมา พร้อมกับดำเนินการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ ตามประสบการณ์ที่ผ่านมาจากโรงไฟฟ้าที่เสร็จสมบูรณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้สามารถส่งมอบอุปกรณ์ได้ตามความพึงพอใจของลูกค้า
ในอนาคตอันใกล้นี้ มิตซูบิชิ พาวเวอร์ จะยังคงเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าในระยองอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมการใช้กังหันก๊าซ รุ่น JAC ต่อไปเพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพด้านพลังงานที่จำเป็นต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจทั่วโลกและช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการผลิตกระแสไฟฟ้า
ที่มา: เอเดลแมน (ประเทศไทย)